คนนอนกลาง

คนนอนกลาง เรื่องเล่าของเพื่อนเมื่อ10ปีที่แล้ว

เรื่อง คนนอนกลาง เป็นเรื่องเล่าของเพื่อนกลุ่มหนึ่งซึ่งเขาได้ไปพักที่โรงแรมแห่งหนึ่ง เรื่องนี้เป็นเริ่มยังไง และตอนจบเป็นอย่างไร

เรื่องสยองของ คนนอนกลาง 

คนนอนกลาง เรื่องนี้เป็นเรื่องของ เพื่อนกลุ่มหนึ่ง ซึ่งกำลังนั่งดื่มกันช่วงใกล้เทศกาลสงกรานต์ ซึ่งในขณะที่เข้ากำลังดื่มกันจนได้ที่นั่น ก็มีเพื่อนคนหนึ่งในกลุ่มพูดขึ้นมาว่า

หนึ่ง: อยากไปเที่ยววันไหลสงกรานต์ที่พัทยา ไปกันไหม

ในขณะที่ทุกคนกำลังมึนเมาไปกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ต่างก็คึกคะนองแล้วไปซื้อตั๋วรถทัวร์เพื่อที่จะนั่งไปที่พัทยากัน ซึ่งไปกัน 3 คน คือหนึ่ง สอง และสาม(นามสมมุติ) จากนั้นเมื่อเข้าเดินทางถึงพัทยา ด้วยความที่เป็นช่วงเทศกาล ซึ่งโรงแรมนั้นถือว่าหายากอย่างมาก เขานั่งรถเพื่อตามหาโรงแรมจนไปเจอโรงแรมแห่งหนึ่ง ซึ่งว่างอยู่พอดี เขาเลยทำการจองโรงแรมที่นี่เป็นจำนวน 3 คืนด้วยกัน จากนั้นเมื่อทำการเช็กอินเรียบร้อย พนักงานก็พาเขาขึ้นไปยังห้องพัก ซึ่งครั้งแรกพนักงานบอกว่าอยู่ชั้น 2 แต่พอเมื่อถึงชั้น 2 ต้องบอกก่อนเลยว่าห้องที่ชั้น 2 นั้นตรงกับบันไดทางขึ้นอยู่พอดี ซึ่งเมื่อพนักงานเปิดประตูเข้าไป พนักงานก็รีบปิดประตูทันที ! แล้วหันกลับมาพูดว่า

คนนอนกลาง
ใช้เพื่อประกอบบทความเท่านั้น

พนักงานโรงแรม: ขอโทษทีค่ะพอดีห้องนี้ยังทำความสะอาดไม่เสร็จเดี๋ยวเปลี่ยนห้องให้ใหม่นะคะ

จากนั้นพนักงานก็เปลี่ยนห้องให้เป็นชั้น 3 ซึ่งพวกเขาก็เดินตามพนักงานขึ้นไป ซึ่งห้องที่เปลี่ยนนั้นตรงกับห้องที่ชั้น 2 ที่เขาได้ครั้งแรก ภายในห้องเมื่อเปิดประตูเข้าไปซ้ายมือจะเป็นห้องน้ำ และติดกับห้องน้ำจะเป็นเตียงนอน ตรงผนังห้องน้ำจะมีกระจกบานใหญ่ ๆ ซึ่งเวลาเรานอนเราก็จะเห็นเงาตัวเองที่อยู่บนเตียง และสิ่งที่เด่นมาก ๆ เมื่อเปิดประตูเข้าไปนั่นก็คือตู้เสื้อผ้า เพราะตู้เสื้อผ้านี้อยู่ตรงข้ามกับประตูเข้าเลย มันเป็นตู้เสื้อผ้าไม้ไม่ได้เก่ามาก ที่สำคัญไปกว่านั้นห้องนี้มีระเบียงแต่ไม่มีประตูเปิดออกไป เป็นเพียงแค่หน้าต่างกระจกเท่านั้น เมื่อมองออกไปก็จะเห็นต้นโพธิ์ใหญ่มาก ซึ่งใบของต้นโพธิ์นั้นร่วงอยู่ที่พื้นระเบียงเต็มไปหมด ทำให้ดูหลอนอย่างมาก

ตู้เสื้อผ้าหลอน
ใช้เพื่อประกอบบทความเท่านั้น

เมื่อทุกคนเข้าถึงที่พักต่างก็สำรวจห้อง จากนั้นหนึ่งใน3คนนี้ก็ไปเปิดตู้เสื้อผ้า ซึ่งตามโรงแรมก็จะมีตู้เซฟไว้ในตู้เสื้อผ้าเพื่อไว้บริการลูกค้า ซึ่งภายในตู้เซฟนั้นเขาพบขนม 1 ห่อซึ่งมีการแกะเอาไว้ ด้วยความคึกคะนองของวัยรุ่นเขาจึงหยิบมากินกันเพราะคิดว่าแขกคนก่อนหน้านี้เขาคงทิ้งไว้ ซึ่งเมื่อเขาอาบน้ำแต่งตัวเขาก็มีออกไปดื่มสังสรรค์กัน หลังจากนั้นพวกเขาก็กลับมานอนเพื่อพักผ่อน

ในคืนแรกนอนเรียงกัน 3 คน นั่นก็คือ หนึ่ง สอง และสาม หลังจากที่พวกเขาหลับกันนั้น สองได้ฝันว่าเขาได้ไปร้านสะดวกซื้อที่หนึ่ง จากนั้นเขากลับพบว่าภายในร้านนั้นมีตู้เสื้อผ้าของโรงแรมไปตั้งอยู่ในนั้น และเมื่อเขาเปิดตู้นั้นกลับพบว่ามีผู้ชายคนหนึ่งอยู่ในนั้น ลักษณะเป็นผู้ชายใส่แว่น ที่คอคล้องกล้องถ่ายรูปเอาไว้ และหลังจากนั้นเขาก็ตื่น แต่เขาไม่ได้เล่าอะไรให้เพื่อนฟัง 

เงาผู้ชาย
ใช้เพื่อประกอบบทความเท่านั้น

คืนที่ 2 ก็เหมือนเดิม พวกเขาพากันออกไปดื่มสังสรรค์เหมือนเดิม และเมื่อกลับมาที่ห้องเพื่อพักผ่อน วันนี้มีการสลับตำแหน่งการนอน ซึ่งมีการสลับตำแหน่งจากที่สองนอนกลาง วันนี้สามดันเป็นคนที่นอนตรงกลางแทน ดังนั้นวันนี้เลยนอนเรียงกัน หนึ่ง สาม และสอง ซึ่งทุกคนก็ปิดไฟนอนเหมือนคืนแรก จากนั้นสามได้สะดุ้งตื่นมากลางดึก เขาจึงลุกนั่งเพื่อที่จะเข้าห้องน้ำ ซึ่งจังหวะที่เขาลุกนั่งนั้นเขาได้หันไปส่องกระจกตรงผนังห้องน้ำ เขากลับพบว่าตู้เสื้อผ้านั้นมันเปิดอยู่ และเขาเห็นเหมือนผู้ชายนั่งอยู่ในนั้น ซึ่งผู้ชายคนนั้นนั่งในลักษณะกอดเข่า เขาตกใจมากจึงรีบนอน และข่มตาให้หลับทันที 

โรงแรมหลอน
ใช้เพื่อประกอบบทความเท่านั้น

เมื่อพวกเขาตื่นกันตอนสายของวันที่ 3 เขาก็ใช้ชีวิตเที่ยวกันตามปกติ แต่สามนั่นมีสีหน้าที่เปลี่ยนไป ซึ่งสามนั้นไม่กล้าที่จะเล่าให้เพื่อน ๆ ฟังเพราะคิดว่าอีกคืนเดียวเอง ถ้าหากเล่าเพื่อนก็อาจจะกลัว เพื่อน ๆ ต่างก็ถามว่าสามนั้นเป็นอะไร ซึ่งสามก็บอกแค่ว่าสงสัยแฮงค์ หลังจากนั้นพวกเขาก็ออกไปดื่มกันเหมือนทุก ๆ วันที่ผ่านมา และเมื่อเขากลับมาที่โรงแรม เขาก็นอนกันตามปกติ แต่คืนนี้กลายเป็นหนึ่งที่นอนตรงกลาง ซึ่งตำแหน่งการนอนวันนี้คือเรียงจากสอง หนึ่ง และสาม ทุกคนก็นอนก็ปกติ จนกระทั่งเวลาตี 3-4 ทุกคนต่างก็สะดุ้งตื่นกัน เพราะหนึ่งนั้นตะโกนเสียงดังว่า “ช่วยด้วย ๆ” และทุบหน้าอกสองที่นอนข้าง ๆ เมื่อทุกคนตื่นเปิดไฟ หนึ่งก็ร้องไห้ เอาแต่พูดว่า “พากูออกไปจากที่นี่ที” จากนั้นเพื่อนทุกคนจึงพาหนึ่งออกมาร้านข้าวต้มโต้รุ่ง และถามว่าเขาเป็นอะไร ซึ่งเขาตัวสั่นพร้อมกับเล่าว่า

หนึ่ง : ตอนที่กำลังหลับ กูเห็นแสงวิบวับเหมือนคนถ่ายรูป พอลืมตาขึ้นมากูก็เห็นผู้ชายยืนอยู่บนหัวเตียง เขาก้มหน้ามามองกูพร้อมกับใช้กล้องถ่ายรูปของเขาถ่ายรูปกู

คนนอนกลาง
ใช้เพื่อประกอบบทความเท่านั้น

เมื่อหนึ่งพูดจบ สองกับสามก็พูดว่าลักษณะผู้ชายคนนั้นใส่แว่น มีกล้อง ชาวต่างชาติใช่ไหม ซึ่งทุกคนต่างบอกลักษณะที่ตรงกัน ซึ่งพวกเขาต่างก็กลัวอย่างมาก จึงนั่งที่ร้านจนเช้า จากนั้นพวกเขาก็ไปเก็บของที่โรงแรมนั้น เมื่อเขาลงบันไดมาถึงชั้น 2 ซึ่งห้องที่เขาได้ครั้งแรกนั้นมันปิดไม่สนิทด้วยความสงสัยเขาจึงเปิดดูห้องนั้น ซึ่งสิ่งที่ทุกคนต่างตกใจอย่างมากเพราะที่ห้องนั้นเป็นห้องที่ว่างเปล่าไม่มีเตียง ไม่มีตู้ ห้องนั้นเต็มไปด้วยฝุ่น และที่สำคัญเลยห้องนั้นมีกระถางธูปอยู่ และมีของเซ่นไหว้ หลังจากนั้นพวกเขาก็รีบทำการเช็กเอาท์ออกทันที

เมื่อเขาเดินมาถึงหน้าปากซอยเขาก็ถามลุงวินมอไซค์ท่านหนึ่งว่า “ลุงครับโรงแรมนี้มีเรื่องลี้ลับอะไรหรือเปล่า พอดีพวกผมไปนอนกันแล้วฝันไม่ค่อยดี” จากนั้นลุงหันมามองแล้วพูดประโยคสั้น ๆ ว่า “ดีแล้วละที่ไม่เป็นไรกันมากกว่านี้” เมื่อพวกเราได้ยินดังนั้นก็ขนลุกกันไปตาม ๆ กัน ซึ่งหลังจากเหตุการณ์ในวันนั้นพวกเขาก็ไม่คึกคะนองกัน และเวลาไปเที่ยวพวกเราก็ต่างจองโรงแรมล่วงหน้า และหาแค่โรงแรมที่ดูใหม่ ไม่น่ากลัว เหตุการณ์ในวันนั้นทำให้หนึ่งกลายเป็นคนกลัวเรื่องผีมาก จากคนที่ไม่ค่อยเชื่อเรื่องผีแต่กลายเป็นว่าเขานั้นกลัวแม้กระทั่งความมืด

ขอบคุณรูปภาพประกอบจาก : shock.mthai