เรื่องเล่า เข้าค่ายวงโย เรื่องเหล่านี้เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงตอนหนูอยู่มัธยมต้นค่ะ เป็นประประสบการณ์ที่หนูจำไม่เคยลืม ถึงจะผ่านมานานมากแล้วประมาณ 6 ปีได้ ตอนนั้นหนูได้ไปเข้า ค่ายวงโยธวาทิตเป็นจำนวน 5 วัน 4 คืน ตั้งแต่วันอังคารที่ 10 ถึงเสาร์ที่ 14 สิงหา ในตลอดเวลาการเข้าค่ายนี้ไม่มีวันไหนที่ไม่เจอ
เรื่องขนหัวลุก เข้าค่ายวงโย ประสบการณ์ขนหัวลุก
เข้าค่ายวงโย หนูต้องขอเท้าความก่อนว่า ก่อนที่จะได้ไปเข้าค่ายนั้นหนูประสบอุบัติเหตุระหว่างในการซ้อม ทำให้แขนหักไม่สามารถซ้อมกับเพื่อนๆ ต่อได้ หนูเลยต้องนั่งดูอยู่เฉยๆ ต้องบอกก่อนว่าส่วนตัวนั้นหนูเป็นคนไม่มีช็อกสว่างเลย ก็เลยไม่เคยมองเห็นผีเลยแต่ก็กลัวเอามากๆ ในวงของหนูมีรุ่นพี่อยู่คนหนึ่ง หนูสมมุติให้ว่าเขาชื่อพี่ ก พี่เขาเป็นคนที่มีเซนส์แล้วแรงมากๆ
เหตุการณ์แรกเกิดขึ้นในคืนวันที่ 11 ซึ่งก็คือคืนแรกของการ เข้าค่าย พวกเราก็แบ่งเซคชั่นในการซ้อมตามปกติส่วนตัวหนูนั้นก็นั่งอยู่นอกวง คอยดูพวกพี่เขาซ้อม โดยพี่ ก จะเป็นคนนำวงซ้อม หนูกับพี่ ก ก็หันหน้าเข้าหาโครงเหล็กดัด ซึ่งไม่มีกำแพงหรือกระจกกั้นไว้ จึงทำให้สามารถมองเห็นระเบียงหน้าห้องเรียนได้ บริเวณของชั้นสองและชั้นสามที่มองเห็นได้ แต่ก็จะมองเห็นเพียงแค่ครึ่งเดียวเท่านั้น บริเวณตรงนั้นมืดมาก ถึงจะเป็นเวลาหัวค่ำก็เถอะแต่หนูก็กลัวมากเหมือนกัน พยายามที่จะไม่มองตรงนั้นอยู่หลายที่ แต่ก็อดที่หวาดเสียวไม่ได้
ซ้อมไปได้สักระยะตอนนั้นก็เริ่มดึกแล้ว เวลาประมาณสี่ทุ่ม หนูได้แต่นั่งเฉยๆ บรรยากาศเริ่มวังเวงมากขึ้นเรื่อยๆ ตอนนั้นจู่ๆ พี่ ก ก็กรี๊ดขึ้นมา หลังจากนั้นพี่แกก็ทิ้งธงลงกับพื้น แล้วก็หนีไปนั่งในที่สว่าง แล้วก็นั่งขดตัวร้องไห้ หนูก็เลยเข้าไปถามพี่เขาว่าพี่เขาเป็นอะไร พี่ ก ก็ร้องไห้ไม่หยุด แล้วก็เอามือชี้ไปที่โครงเหล็กบริเวณชั้นหนึ่งและชั้นสองที่หนูได้บอกตอนแรกว่าหนูกับพี่ ก จะเป็นคนเห็นเท่านั้น พี่ ก ก็บอกว่า พี่เขานั้นเห็นค่าคนอยู่บนตรงนั้น ตัวหนูนั้นก็ขนลุกซู่ไม่กล้าที่จะมองเหมือนกันก็เลยโผเข้าไปกอดพี่ ก แล้วบอกให้พี่เขาว่าใจเย็นๆ หนูเลยถามพี่เขาว่าชั้นไหนพี่เขาก็ตอบกลับมาว่าเป็นชั้นสาม
อาจารย์ก็เลยแทรกขึ้นมาว่านั่นยามรึเปล่า แล้วก็เดินสั่งให้ทุกคนเลิกแถวเพราะนี่ก็เป็นเวลาดึกมากแล้ว แล้วยิ่งมาเจอเหตุการณ์แบบนี้อาจารย์ก็ยังแอบกลัวเหมือนกัน หลังจากที่อาจารย์สั่งเลิกแถวแล้วนั้น พวกเราก็พากันเก็บธง ก่อนที่ทุกคนจะกลับห้องทุกคนก็เข้ามานั่งปลอบพี่ ก เหมือนเดิม พี่ ก ก็เอาแต่ร้องไห้สะอึกสะอื้น แต่พอรวบรวมสติได้นิดหน่อย พี่ ก ก็เลยพูดว่าที่เขาเห็นคือเห็นแค่เท้าจนถึงข้อเท้าเท่านั้นส่วนบนไม่เห็น และนี่ก็เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในคืนแรก
เหตุการณ์ที่สองคืนวันที่ 12 เรื่องนี้หนูก็อยู่ร่วมเหตุการณ์ด้วยนึกแล้วหนูก็ยังขนลุกอยู่เลย บางคนฟังแล้วอาจจะดูตลกแต่จริงๆ แล้วมันก็ช็อกอยู่เหมือนกัน เหตุการณ์ครั้งนี้นั้นไม่มีพี่ ก มีแต่แก๊งเพื่อนหนูสามคน แล้วก็รุ่นพี่อีกสองคน กำลังนุ่งผ้าถุงอาบน้ำแต่งตัวกันอยู่ แต่จริงๆ แล้วในแก๊งหนูมีกันอยู่ด้วยกันห้าคน อีกสองคนลืมของหรือกลับไปเอาของที่ห้องก่อน พวกหนูก็พูดกันเล่นเฮฮาตามภาษาผู้หญิงที่ห้องน้ำ และพวกหนูก็ได้ยินเสียงผู้ชายดังขึ้นมาว่า โอ้ ฝ่ายทักษิณแล้วเหมือนอายุประมาณยี่สิบปลายสามสิบต้นๆ แซวสาวอาบน้ำ ตรงบริเวณหน้าประตูห้องน้ำ ดังแบบระยะประชิดมาก เหมือนกับเอาหน้ามาแนบประตูไว้เลย ทุกคนต่างได้ยินเหมือนกันหมดส่วนตัวหนูก็ยังได้ยินเลย
ซึ่งจริงๆ แล้วที่อาบน้ำของผู้ชายนั้นจะอยู่ไกลมากเป็นอีกฟากหนึ่งของตึกเลย แถมทางขึ้นฝากนี้ก็ล็อกประตูหมดแล้ว ไม่มีทางเป็นไปได้เลยที่จะมีผู้ชายเล็ดลอดเข้ามาได้ ก็มีรุ่นพี่คนหนึ่งตะโกนไปว่า ใครวะ แต่ก็ไม่มีเสียงตอบรับกลับเข้ามา รุ่นพี่คนนั้นก็ถามย้ำไปอีกว่า กูถามว่าใคร ส่วนตัวหนูก็เลยพูดว่าไอ้พี่เขาลองออกไปดูไหม เพราะหนูคิดว่าอาจารย์อาจารย์มาแกล้งก็ได้ มีแค่พี่เขาคนเดียวเพียงใส่เสื้อผ้าครบชิ้นอยู่ เขาเลยอาสาที่จะไปดูให้เพราะว่าทุกคนในห้องน้ำใส่ผ้าถุงกันหมดแล้ว
แต่ยังไม่ทันจะเปิดประตูเลย เพื่อนหนูสองคนที่กลับไปเอาของก็เดินสวนเข้ามาทันที ซึ่งระยะเวลามันกระชั้นชิดมาจากเสียงในตอนแรกที่เราได้ยิน ไม่มีทางเลยที่ผู้ชายคนนั้นจะหายไปโดยที่เพื่อนหนูสองคนไม่เห็นได้หรอก เพื่อนที่เขามาสองคนก็ถามว่า มีอะไรกันวะ หนูเลยถามกลับไปว่าเมื่อตะกี้ใช่เสียงพวกมึงปะ เพื่อนก็ตอบกลับมาอย่างรวดเร็วว่า กูยังไม่ได้คุยอะไรกันเลย
เหตุการณ์ที่สามเกิดขึ้นในวันที่ 13 เป็นวันศุกร์ที่ 13 เหตุการณ์ในคืนนั้นหนูจำได้ว่ามีฝนเทลงมาหนักมากๆ ลมก็พัดแรงอย่างกับพายุจะเข้า อาจารย์เลยให้เลิกซ้อมไว้เป็นพิเศษ วันนั้นพวกหนูได้ไปซ้อมเต้นกันในห้องของเล่น ของน้องอนุบาล พอเลิกแถวหนูก็เลยไปอาบน้ำเตรียมนอน แต่ด้วยเวลาก็เป็นเวลาหัวค่ำมากๆ ก็เลยยังพากันนอนไม่หลับ พวกเราก็เลยนั่งล้อมวงพากันเล่นไพ่เพื่อเป็นการฆ่าเวลา
จู่ๆ เพื่อนหนูคนหนึ่งที่ชื่อเอฟก็พูดขึ้นมาว่า มึงกูลืมหูฟังไว้ในห้องซ้อม ลงไปหาเป็นเพื่อนกูหน่อยดิ คนที่ใช่เอฟเนี่ยก็เลยลงไปเอาหูฟังกับเพื่อนที่ชื่อว่าหอย หนูก็เพื่อนคนอื่นก็นั่งเล่นกันไปก่อน สองคนนั้นก็พากันลงไปเอาของ และในเวลาเพียงไม่นาน สองคนนั้นก็วิ่งกลับมาด้วยสีหน้าที่ตกใจ หัวฟูกันมาทั้งคู่เลย ทุกคนก็เลยพากันถามว่า เป็นไรกัน เอฟก็ตอบกลับมาว่า กูโดนกันอีกแล้ว พอสองคนรวมสติได้ก็พากันเล่าเป็นฉากๆ
เอฟก็เริ่มเล่า ตอนที่กูลงไปหูฟังกัน กูก็เปิดประตูเข้าไป กูก็ได้ยินเสียงกันว่ามีเหมือนคนเคาะอะไรสักอย่างดัง ปั๊กปั๊กปั๊ก เอฟก็ยื่นมือไปเคาะกับขอบหน้าต่างเพื่อความสมจริง ในขณะที่เล่าอยู่ เอฟก็เคาะต่อจากช้าๆ แล้วก็เร็วไปจนเร็วมากๆ เอฟก็เลยบอกว่า พอกูได้ยินเสียงแบบนี้กูก็เลยกลัวกันก็เลยพากันออกมา หลังจากเอฟเราจบหอยก็แทรกขึ้นมาว่า อีเอฟมึงทิ้งกู เสียงพี่ ก ก็แทรกขึ้นมา เสียงฝนรึเปล่า
หอยก็เล่าต่อ ไม่พี่เสียงที่พวกหนูได้ยินมันมาจากหน้าต่าง หอยก็เลยหันไปดู มันเป็นผู้ชายตัวสูงใส่เสื้อสีขาวแขนยาว ยืนเคาะอยู่ข้างนอก หนูต้องบอกก่อนว่าโรงเรียนของหนูนั้นยกพื้นสูงมาก ประมาณเมตรถึงสองเมตรได้เลย ไม่มีทางเป็นไปได้เลยที่จะมายื่นขอ นอกจากจะใช้บันได และประกอบกับว่าฝนมันก็ตกหนักขนาดนั้น มองออกไปข้างนอกมันก็เป็นหญ้าไม่น่าจะมีใครเอาบันไดมาปีนได้
หลังจากนั้นหอยก็เล่าต่อว่า ก็เห็นเขาขอปังปังปังอยู่ตรงนอกหน้าต่าง มองเห็นตั้งแต่ส่วนหัวถึงสะโพก เพราะหน้าต่างค่อนข้างที่จะบานใหญ่ และในคืนนั้นก็มีคนเจอกันอยู่หลายคน ส่วนมากผู้ชายก็จะเจอ เพราะนอนกันอยู่ในห้องดนตรีก็เหมือนมีเครื่องดนตรีไทยอยู่ด้วย แต่ส่วนตัวหนูก็ไม่ได้รู้รายละเอียดอะไร
และมาถึงเรื่องสุดท้ายที่เกิดในคืนสุดท้าย คืนนี้บอกได้ว่าหลอนที่สุดเหมือนเป็นการทิ้งท้ายกันเลย ถ้าย้อนกลับไปคืนแรกพี่ ก ก็ยังเจอของเขาทุกคืนทักบ้างไม่ทักบ้าง และประมาณถึงในคืนสุดท้ายทุกคนก็คงดีใจกันว่าจะได้กลับบ้านแล้ว เจอเรื่องหลอนไม่ซ้ำกันทุกคืนแบบนี้ก็ไม่ไหว คืนนี้ทุกอย่างสงบดีอาบน้ำก็ไม่เจออะไร เวลาไปไหนมาไหนก็ไปกันเป็นกลุ่มเป็นก้อนไม่มีใครกล้าไปคนเดียว พอใกล้ถึงเวลานอนทุกคนก็มาประจำที่นอนของตัวเองส่วนตัวหนูก็นั่งอ่านการ์ตูนกับเอฟ ข้างซ้ายของหนูก็คือประตู
เราทุกคนก็ปิดไฟกันหมด หลังจากนั้นหนูก็ใช้ไฟฉายในการอ่านการ์ตูน แต่ให้ปิดไฟแล้วก็ตามก็ยังคงมีแสงสลัวๆ ลอดเข้ามาในห้อง และในขณะที่ทุกคนกำลังจะนอน พี่ ก พี่กำลังนอนเล่นบีบีอยู่จู่ๆ แกก็พูดขึ้นมา เหมือนกับเรียกรุ่นน้องที่นอนอยู่ฝั่งตรงข้าม โดยจะสมมุติให้เข้าชื่อ บ ละกันนะคะ คือต้องบอกก่อนว่าห้องที่นอนกันเนี่ยเป็นห้องที่ค่อนข้างใหญ่ เพราะว่าเอาไว้สำหรับให้น้องอนุบาลมานอนรวมกัน ตรงริมฝั่งที่พี่เข้านอนนั้นค่อนข้างจะวังเวงมากกว่าฝั่งที่หนูนอนมาก ยิงมุมที่น้อง บ นอนยิ่งน่ากลัว
นอกจากนั้นพี่กอก็เรียกชื่อ บ แล้วก็บอกว่ายืนทำไมนอนได้แล้วเดี๋ยวอาจารย์ก็ด่าหรอก เสียงของ บ ตะโกนกลับมาทันทีว่า หนูไม่ได้ยืน ซึ่งในตอนนั้นหนูใจกล้ามาจากไหนก็ไม่รู้ หนูก็เลยเอาไฟฉายสนุกอ่านการ์ตูนนะส่องไปก็ไม่เห็นใคร เอฟกับหนูเลยหันมามองหน้ากันแล้วก็บอกกับ พี่ ก ว่า ไม่มีนะพี่ พี่เค้าบอกอีกว่าไม่มีได้ไงก็ยืนอยู่ ซึ่งพี่แกก็ก้มหน้าก้มตากดบีบีไม่ได้สนใจอะไร
จนกระทั่งพี่คนหนึ่งใจหาญกล้าลุกมาเปิดไฟ แล้วก็บอกกับ พี่ ก ก็ว่า ไม่เห็นมีใครเลยมึงพูดแบบนี้น้องเขาก็กลัวกัน ทุกคนก็พากันย้ายมานอนฝั่งเดียวกับที่หนูนอน พี่ ก ก็ช็อกค้างไป แล้วก็บอกให้ปิดไฟปิดไฟเดี๋ยวนี้เหมือนเห็นอะไรบางอย่าง พอมาถึงตอนเช้า พี่ ก ก็ยังนอนสั่นอยู่ตรงนั้นไม่หยุด แต่ก็ไม่มีใครกล้าถามต่อว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อคืน หรือพี่เขาเห็นอะไร เรื่องราวทั้งหมดก็มีอยู่ประมาณนี้ค่ะ
ขอบคุณ : คืน HIT : รวมเรื่องทางบ้าน
ขอบคุณรูปภาพ : realghos