เรื่องหลอนบนเขาตังกวน จ.สงขลา

เรื่องหลอนบนเขาตังกวน จ.สงขลา เรื่องเล่าสุดสยอง ในยามค่ำคืน !!!

เรื่องเล่า เรื่องหลอนบนเขาตังกวน จ.สงขลา เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นที่เขาตังกวน ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่อยู่ในประเทศไทย เหตุการณ์ครั้งนี้ที่นำมาเล่า ได้นำมาจากกระทู้หนึ่ง ในพันทิพ !!! ที่เป็นคนเขียนขึ้น และเล่าเหตุการณ์ได้อย่างน่าสยดสยองอย่างมาก

เรื่องเล่าสยองขวัญกับ เรื่องหลอนบนเขาตังกวน จ.สงขลา

…..ดิฉัน เป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา แต่ว่าเป็นชาวพัทลุง วันนี้ดิฉันจะมาเล่าสู่กันฟัง เพราะดิฉันเป็นคนที่เชื่อใน เรื่องลี้ลับผีสาง อะไรแบบนี้มาก และจะขอยืนยันในฐานะคนที่สัมผัสสิ่งเหล่านี้ได้ว่า เรื่องพวกนี้ไม่ใช่เรื่องงมงายแต่อย่างใดเลย และดิฉันก็ไม่สามารถจะไปบังคับให้บุคคลหนึ่งบุคคลใด มาเชื่อในสิ่งที่ดิฉันเล่า เพียงแต่นำมาเล่าสู่กันฟัง ใครที่มองว่าเป็นเรื่องงมงาย ไร้สาระ ก็ขอเพียงแต่ท่านจงอ่านให้เป็นเพียงนิทานเรื่องหนึ่งด้วยเถิด

…….เพราะความที่ดิฉันมาใช้ชีวิตเป็นนักศึกษาอยู่ที่สงขลา แรก ๆ ก็กลับบ้านทุกวันศุกร์-เสาร์  พออาทิตย์ก็กลับมา เพื่อที่จะเรียนในวันจันทร์-ศุกร์ ดิฉันได้เช่าหอพักอยู่แถว ๆ ถนนราษฎรอุทิศ1 ก็เป็นหอใหญ่ที่สะดวกสบายพอสมควร แต่ว่าพอดิฉันเริ่มรู้จักคนมากขึ้น มีเพื่อนมากยิ่งขึ้นก็ไม่ค่อยกลับบ้าน จะเตร็ดเตร่เที่ยวเล่นกับเพื่อนอยู่แถวละแวกนี้ ด้วยความที่ตัวเองโสด ใส ซิง ไม่มีแฟน ทั้งที่รูปร่างหน้าตาก็ดี (คนรอบตัวบอกงั้น) ก็เลยไม่ต้องกังวลว่าใครจะมาทักท้วงเรื่องเที่ยวเล่นกับเพื่อนใหม่ ๆ

เรื่องหลอนบนเขาตังกวน จ.สงขลา
ภาพประกอบบทความเท่านั้น

ไปเที่ยวกับเพื่อน ๆ

….มอเตอร์ไซค์นี่เลย 3 คัน ไปที 6 คนบ้าง 7 คนบ้าง ไปได้แบบเรื่อย ๆ แต่หลัก ๆ ก็จะชอบไปนั่งเล่นที่แหลมสมิหลาหรือไปนั่งดูเพื่อนตกปลา ถ้าหากว่าไกลหน่อยก็จะขึ้นแพข้ามฟากไปฝั่งหัวเขาแดง อ.สิงหนคร เพราะดิฉันมีเพื่อนเป็นมุสลิมบ้านอยู่ทางฝั่งนั้นด้วย อันว่าเรื่องการเที่ยวนี้  ดิฉันไม่ใคร่จะชอบเดินเข้าห้างสักเท่าไหร่ ออกแนวสาวลุย ชอบลุยธรรมชาติว่างั้นนั่นเอง

….และการไปเที่ยวอะไรพวกนี้ ดิฉันก็หนีไม่พ้นเรื่องราวสัมผัสกับผี ตามประสาคนที่มีดีทางด้านนี้ ดิฉันไม่รู้ว่าจะเรียกว่ามีดีได้หรือเปล่า แต่มันก็ดีตรงที่ดิฉันเห็นจนชินแล้ว ชินจนเลิกกลัวไปแล้ว เคยพยายามไปศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับเรื่องพวกนี้ ทางพระท่านว่า เรื่องการสัมผัสผีได้เนี่ย  มันได้มาจากการฝึกฝนจิตที่อาจจะฝึกได้ในชาตินี้หรือว่าติดตัวมาแต่ชาติก่อน จริงหรือเท็จอย่างไรดิฉันก็ไม่ทราบ เพราะไม่สามารถระลึกชาติได้แต่อย่างใด  

เรื่องราวของผีในเมืองสงขลา

หากจะมีเครื่องมือให้ไล่จับผีได้ เหมือนเกมโปเกมอน GO ดิฉันก็ขอแนะนำให้ไปจับที่เขาตังกวน เขาตังกวน ซึ่งเป็นเขาสูงโดดเด่น โดยเป็นจุดที่สามารถขึ้นไปมองวิวของเมืองสงขลาได้รอบทิศ สำหรับบนยอดเขาจะมีเจดีย์องค์ใหญ่อยู่ มองเห็นแต่ไกล หากว่าใครมาเมืองสงขลาแล้วไม่ได้ไปขึ้นเขาตังกวนก็เหมือนมาไม่ถึงเลยแหละ

บรรดานักท่องเที่ยวคงคุ้นเคยกับการขึ้นเขาตังกวนด้วยลิฟต์ที่ตีนเขา แต่เขาตังกวนจะมีทางขึ้นถึง 3 ทาง ทางหนึ่งคือทางลิฟต์ที่คุ้นเคยกันดี ทางที่สองจะเป็นถนนเล็ก ๆ เป็นอิฐเรียงต่อ ๆ กัน คุณสามารถขับมอเตอร์ไซค์ขึ้นไปถึงยอดเขาได้เลย ทางขึ้นด้านนี้จะอยู่ด้านตะวันตกเฉียงใต้ของเขา และอีกทางก็คือบันไดอยู่ทางตะวันตก หากว่าขับรถวนตามถนนรอบเขา หากลองสังเกตดี ๆ จะมองเห็นทางขึ้นที่ว่านี้ได้เอง

……ช่วงนั้นดิฉันกับเพื่อนสาวอีก 2 คน โดนชวนโดยเพื่อนชาย 2 คน ว่าจะไปขี่รถเล่นแก้ร้อนตอนกลางคืนกัน เราขี่รถตามกันแบบไปเรื่อย ๆ หญิงซ้อน 3 ชายซ้อน 2 ขับรถเคียงเมียงมองสอดส่องล่องตามทางตระเวนไปทั่วเมืองยามราตรี จนไปถึงที่เขาตังกวน เราขี่ตามถนนเลียบเขาตังกวน จนไปเจอทางขึ้นเขาที่เป็นด้านบันไดหัวพญานาค เพื่อนชายก็ทำการจอดรถ เราเลยจอดตาม เพื่อนชายก็เอ่ยขึ้นมาว่า

    “เห้ย เรายังไม่เคยขึ้นเขาตังกวนทางบันไดนี้เลย ลองไปกันมะ”

    “จะดีหรอ มันมืดมากเลยนะมึง พวกเราก็ผู้หญิงด้วย อันตราย”

     “ไม่เป็นไรหรอก มีพวกเราเป็นผู้ชายตั้ง 2 คน ใครกันจะกล้าทำอะไร”

…..พวกเราที่เป็นหญิง 3 คนนั้นก็มองหน้ากัน เหมือนจะหยั่งความเห็นกัน  …

     “เอาไงแก ขึ้นป่าว”

  “หึ้ย มันมืดนะ เอาจริงดิ”

   “ลองดู มีผู้ชายมาด้วย ไม่เป็นไรหรอกมั้ง”

ผีป่า
ภาพประกอบบทความเท่านั้น

ตัดสินใจเดินขึ้นบนเขาตังกวน จ.สงขลา

…..ดิฉัน ไม่ค่อยอยากจะขึ้นเท่าไหร่นัก เพราะแค่ยืนตีนเขา ดิฉันก็รู้สึกได้แล้วว่า มีความยะเยือกในแบบที่ไม่ใช่ความเย็นธรรมดา แถมมีกลิ่นที่โชยมาแตะจมูกนั้น มันก็ฟ้องอยู่ในจิตดิฉันแล้วว่า “กลิ่นขี้หมาแถวนี้มันแรงจริง ๆ ” แต่ก็อ่ะ ในเมื่อเพื่อน ๆ อยากลองขึ้นกัน ทางเราก็ต้องเอาด้วย เลยเกาะกลุ่มกันเดินตามเพื่อนชายตามบันไดขึ้นเขาไปมืด ๆ

…..เราเดินตามกันมาจนถึงตะพักไหล่เขาตะพักแรก เหมือนจะเป็นที่โล่ง ๆ และมีลักษณะเหมือนเป็นส่วนฐานของสิ่งปลูกสร้างอะไรบางอย่าง เราหันมองกลับไป ซึ่งมองเห็นไฟจากบ้านเรือน  และมองเห็นไฟจากเรือในทะเลสาบอยู่แวววาว ท่ามกลางความมืดและเย็น ๆ บนไหล่เขาตังกวน  มันชวนให้เราฟิน โดยเราพากันนั่งมองวิวอยู่มืด ๆ แบบนั้น เพื่อน ๆ ต่างก็บอกว่าเย็นสบายจัง  สบายตาด้วย มันเป็นธรรมชาติกลางเมืองที่เราสัมผัสได้จริง ๆ

….ขณะที่เพื่อน ๆ กำลังนั่งฟินกับบรรยากาศอยู่นั้น ดิฉันผู้มีสัมผัสพิเศษ และมีวิญญาณของพี่สาวฝาแฝดมาคอยตามติดอยู่ก็ได้ยินเสียงแว่วในหู ดังขึ้นเหมือนเราได้ยินเสียงพูดจากหูฟังว่า “ระวัง” ซึ่งเป็นคำพูดที่รู้สึกว่าชัดมาก เหมือนวิญญาณพี่สาวฝาแฝดดิฉันจะพยายามบอกอะไร แต่ก็ได้ยินชัดแค่นั้น แล้วหลังจากนั้น เสียงก็กลายเป็นเหมือนเสียงฟังไม่ได้ศัพท์ไปจนไม่รู้ว่าจะเตือนให้ดิฉันนั้นระวังอะไร

…..ดิฉันหันหลังไปมองเห็นเจดีย์ที่อยู่สูงและไกลขึ้นไปเป็นเงาทะมึน ได้ยินเสียงเหมือนเสียงใครเคาะระฆังมาเบา ๆ

เง่ง….เง่ง….เง่ง….

ดิฉันหันไปดูเพื่อนหญิงอีก 2 คนก็จับแขนและกระซิบกระซาบกัน

“แก แกเป็นไร มองอะไร”

สัมผัสสิ่งเร้นลับ

….เพราะเพื่อนสาวทั้ง 2 คนของดิฉันจะรู้เรื่องที่ฉันสามารถสัมผัสวิญญาณได้  พอเห็นอาการของดิฉันแล้วที่เริ่มนั่งนิ่งและพยายามเบิ่งตาเพื่อจับสัมผัสสิ่งเร้นลับ พวกเธอก็จับแขนดิฉันไว้แน่นเลย

  “หึยยยยยย  แก  มีไรอ่ะ”

   “แก ไม่เอานะ กูกลัว อย่ามาสัมผัสอะไรตอนนี้ดิ กลับกันเหอะ”

….เพื่อนสาวของดิฉัน 2 คนก็เริ่มโวยวาย เมื่อเห็นอาการของดิฉัน หันไปดึงไม้ดึงมือเพื่อนชายอีก 2 คนชวนกันลงเขา แต่เหมือนเพื่อนชายจะอยากรู้มากกว่ากลัว เลยหันไปบอกเพื่อนหญิงทั้ง 2 ว่า “เธออยู่นิ่ง ๆ ดิ ”

พวกเพื่อนสาวเลยหุบปากลงได้ แต่ว่าก็ยังนั่งหมอบอยู่ด้านหลังของดิฉัน

…เสียงดังคล้ายระฆังยังดังมาอีก เง่ง….เง่ง….เง่ง…. ทิ้งระยะห่างแต่ละเง่งพอสมควรนั่นเอง

แล้วดิฉันก็ได้ยินเสียงเหมือนเป็นเสียงรอยเท้าคนเดินลงมาดัง กุบ  กุบ  กุบ

พวกเพื่อน ๆ ก็ได้ยิน จนมันเผลอร้อง “เชี้ย” ออกมา แล้วก็ปรากฏเงา ที่มีลักษณะเหมือนเงาคนรูปร่างสูงใหญ่ที่กำลังเดินตามทางลงมา

…….พวกเพื่อน ๆ มันก็เห็นกันทุกคน ก็เริ่มใจคอไม่ดี คนนึงข้างหลังของดิฉันมันกลัวจนตัวสั่น  เพราะเงาที่เห็นนั้นมันชัดเจนมากเลย และกำลังเดินลงตรงมาทางที่กลุ่มของดิฉันที่นั่งกันอยู่เงียบ ๆ เงานั้นเดิน ๆ มา พอใกล้ถึงแล้วก็หยุดนิ่งกับที่ไม่ไหวติง

   “กูจะไม่ไหวแล้วนะโว้ย  ฮือ ๆ ๆ กูกลัว”

เสียงเพื่อนคนหนึ่งของดิฉันเริ่มงอแง ดิฉันบอกให้มันนิ่ง ๆ เงาที่ว่านั้นก็เริ่มโงนเงนโอนเอนไปมาเหมือนต้นไม้โดนลมแล้วก็มีเงาอีก 2 เงาที่ตามหลังเงาแรกมาจนทันกัน รวมเป็น 3 เงา ดิฉันเลยทำการยืนขึ้น พวกเพื่อน ๆ ก็ยืนตาม พอเรายืน เงาที่เราเห็น ๆ อยู่ก็หายแว็บไปกับตาเลย

ผีฝาแฝด
ภาพประกอบบทความเท่านั้น

พี่สาวฝาแฝดมาเตือนฉัน!!

….เพื่อนสาวดิฉันเธอสติหลุด เลยกรี๊ดแล้วซอยเท้าวิ่งรัว ๆ ลงบันได เพื่อนชายก็ไล่วิ่งไล่ตามเพราะกลัวเพื่อนสาวตกบันไดขึ้นเขาตาย ดิฉันเดินตามเพื่อนลงมาอย่างปกติธรรมดา ซึ่งเป็นวิญญาณที่มีพลังแรงมากทีเดียว 3 ดวงนี้ เพราะว่าออกมาให้คนเห็นได้ถึง 5 คน แม้แต่เพื่อน ๆ ของดิฉันที่ไม่ได้มีสัมผัสอะไร ก็ยังเห็นได้ด้วยกันกับดิฉัน เราลงบันไดมาโดยมีดิฉันเดินรั้งท้าย  จังหวะที่ก้าวเท้าลงมานั้น เสียงแว่ว ๆ จากผีพี่สาวฝาแฝดของดิฉันที่ตามติดตัวฉันอยู่ก็ดังแว็บเข้ามาในหัวว่า “ข้างหลัง”

…ดิฉันเลยหันหลังไปเบิ่งตามอง เห็นเงารูปร่างสูงใหญ่ยืนอยู่ตรงบนบันไดชั้นสิ้นสุดขั้นบันได  บนตะพักแรก ในลักษณะยืนแยกขานิด ๆ สองแขนห่างตัวเหมือนกำหมัด เขายืนนิ่ง ๆ ไม่ไหวติง  แต่ดิฉันเห็นได้ว่า เหมือนเขามายืนมองพวกเราแล้วพอดิฉันหันไปมองไม่ยอมวางตา เขานั้นก็กระโดดขึ้นต้นไม้ต้นหนึ่งบนนั้นหายไปเลย จนดิฉันไม่สามารถมองเห็นหรือสัมผัสได้อีก

…..พวกเพื่อนชายที่ลงไปถึงรถแล้วก็ตะโกนเรียกขึ้นมา ดิฉันเลยเดินลงไปสมทบกับเพื่อน ๆ 

ก่อนจะพากันขับรถออกมาจากตรงนั้น เพื่อน ๆ ดิฉันถามว่า ผีใช่ไหมมึงตะกี้ ดิฉันไม่สามารถตอบเป็นอื่นได้นอกจาก “อืมมมม”……แต่จะเป็นใครอันนั้นไม่รู้ แต่ว่าคงอยู่เฝ้าเขาตังกวนมานานพอดู ถึงมีบารมีมากขนาดนี้ ถึงกับโผล่มาให้คนเห็นได้แบบนี้ เพราะถ้าเป็นผีทั่ว ๆ ไป จะไม่สามารถโผล่มาให้คนเห็นได้พร้อม ๆ กันแบบเต็มตาแบบนี้เลย ดิฉันก็ไม่รู้จะไปถามเอาจากใคร เหมือนกันจริง ๆ ก็อยากรู้เหมือนกันนะว่านั่นคือวิญญาณอะไร หรือว่าเป็นใครกัน..

ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก : เรื่องเล่าสุดสยอง ยามค่ำคืน