ได้เจอกับผีเปรต เรื่องดังจังหวัดภูเก็ต ที่ชวนขนหัวลุก

เรื่องนี้เป็นอีกหนึ่งเรื่อง ที่ต้องย้อนกลับไปกับเวลาเพียงไม่กี่ปีก่อน ในช่วงนั้นเขาได้เป็นนักศึกษาอยู่ชั้นปีที่ 3 เขากับเพื่อนสนิทของเขา ได้รวมกันทั้งหมด 3 คน มักจะชอบไปล่าท้าผีกันอยู่บ่อย ๆ พวกเขามักจะชอบไปตรงสถานที่ที่หลาย ๆ คนมักจะพูดติดปากกันว่า สถานที่ตรงนี้มีผีอยู่ 

และในส่วนของสถานที่ตรงนี้ จะมีวิญญาณเฮี้ยนนะ ซึ่งพอพวกเขาก็ได้ยินแบบนั้น พวกเขาก็มักจะไปสถานที่ที่ว่าเฮี้ยนอยู่ตลอด พวกเขาก็ไปตามสถานที่เฮี้ยน ๆ อยู่บ่อย ๆ โดยที่พวกเขาตั้งใจกันว่า จะไปเพื่อเอาความสนุกเฉย ๆ ด้วยความที่พวกเขาได้ไปมาหลายสถานที่แล้ว และพวกเขาก็ไม่ค่อยที่จะได้พบเจอกับอะไรกันมากมาย และที่หนักสุด พวกเขาก็ได้เคยเจอกับ เสียงที่ดังก๊อก ๆ แก๊ก ๆ มากกว่า ในบางครั้งพวกเขาก็จะเห็นเป็นเงาดำ ๆ ผ่านไปผ่านมา แต่ก็ไม่เคยได้มาเห็นแบบตัวเป็น ๆ เลยสักครั้ง

ซึ่งก็มีอยู่วันหนึ่ง ที่เขาได้มีเพื่อนคนหนึ่งได้มาพูดกับเขาว่า มีสถานที่ที่หนึ่ง ที่มีชาวบ้านพูดกันว่า ในอดีตตรงแถว ๆ นี้ ได้เคยมีคนพบเจอกับผีเปรตอยู่บ่อย ๆ และมันเป็นเรื่องที่แน่นอนว่า ในแถว ๆ นั้นพวกเขาออกไปในช่วงกลางคืนเป็นอะไรที่เงียบเอามาก ๆ เพราะพวกเขาได้ยินเรื่องนี้ขึ้นมา เขาก็ได้ชวนเหล่าเพื่อน ๆ ในกลุ่มของเขาว่า พวกเราจะไปที่สถานที่แห่งนี้กัน

เพราะตรงที่เขาจะไปนี้ มีผีเปรตอย่างที่ชาวบ้านพูดถึงกันหรือเปล่า ในวันนั้นตอนกลางคืน ตอนที่พวกเขาจะออกเดินทางกัน พวกเขาได้ตกลงกันว่า จะเอารถมอเตอร์ไซต์ไปเพียงแค่ 2 คันเท่านั้น พวกเขาก็ได้เริ่มออกเดินทาง ในตอนกลางคืน

และพวกเขาก็ขับไปกันเรื่อย ๆ จนกว่าจะไปถึงตรงบริเวณที่พวกเขาได้ตั้งเป้าหมายเอาไว้ ก็เป็นเวลาประมาณตี 2 เข้าให้แล้ว พอไปถึงตรงที่หมาย พวกเขาก็ได้จอดรถไว้ตรงตีนเขา และได้เดินขึ้นเขาไปบนเขาแทน โดยที่พวกเขาตัวเป็นคนเดินนำหน้า และเหล่าเพื่อน ๆ ของเขา ก็เดินตามหลังมาติด ๆ

ในคืนนั้นเขาก็จำได้ว่า คืนนั้นมีแสงจันทร์เพียงอย่างเดียว ที่ทำให้เขาเห็นทางเดิน และตลอดทางก็ไม่มีแสงไฟเลย และในเวลานั้น ไม่มีรถขับผ่านเลยสักคัน พวกเขาก็ได้เดินขึ้น ๆ ลง ๆ อยู่ตรงภูเขาลูกนั้น เป็นเวลาอยู่นานสองนาน ในระหว่างการเดินบนเขานั้น เพื่อนของเขาก็ได้ถ่ายคลิปในระหว่างเดินตลอดทาง แต่แล้วในระหว่างทางเดิน เขากับเพื่อน ๆ ก็ได้เจอเข้ากับศาลเก่า ๆ ศาลหนึ่งที่อยู่บนเขา มันเป็นศาลที่แอบอยู่ระหว่างทาง และเป็นศาลเก่า ๆ ที่มีเครื่องเซ่นไหว้ 

และมีตุ๊กตานางรำมากมายเต็มไปหมด ทั้งบนศาลและบนพื้นดิน พอเห็นแบบนั้น พวกเขาก็ตกใจกับสิ่งที่เห็น เพราะเขาไม่คิดว่าจะมีศาลอยู่บนเขาแบบนี้ พอสังเกตพวกเขาก็ไปรอบ ๆ พวกเขาได้พบกับธูปที่ตั้งไว้อยู่ เพื่อน ๆ ของเขาก็เลยมีความคิดที่ว่า ในหลาย ๆ ครั้งที่พวกเขาไปล่าท้าผีกันนั้น พวกเขาไม่เคยจุดธูปเลย เพื่อที่จะขอให้เห็นดวงวิญญาณ พอในครั้งนี้ พวกเพื่อน ๆ ของเขาเลยแนะนำว่า ให้ทุกคนจุดธูปและไหว้กันดีกว่า เผื่อจะมีโอกาสได้เห็นอะไรที่ลี้ลับกันมากขึ้น

แต่ด้วยความที่เพื่อนทั้งสองของเขา เป็นคนอิสลาม เลยทำให้คนที่ต้องจุดธูป เพื่อที่จะขอให้เห็นดวงวิญญาณเหล่านั้น ได้กลายเป็นเขาเพียงคนเดียว เขาจึงจำเป็นต้องจุดธูปเพียงคนเดียวในตอนนั้น แต่ในตอนที่เขาจุดธูปนั้น เขาก็จุดแล้วก็ปักเพียงเท่านั้น เขาไม่ได้ท่องคาถาอะไรเลย พอหลังจากปักธูปลงไปเป็นที่เรียบร้อย เขาจึงสังเกตได้ว่า มีควันที่ออกมาจากธูปนั้น ลอยขึ้นมาเป็นเส้นตรงเลยควันสีดำ 

พอเข้าไปตรงเส้นจันทร์พอดี มันเป็นอะไรที่แปลกเอามาก ๆ จนเวลาผ่านล่วงเลยไปจนประมาณตี 3 ในตอนนั้นทุกคนก็เริ่มง่วงกันแล้ว พวกเขาก็เลยตัดสินใจว่า จะเดินลงเขา และกลับบ้านกันดีกว่า ในจังหวะที่เขากับเพื่อน ๆ กำลังเดินลงจากเขากันอยู่นั้น

พอเดินมาได้ครึ่งทาง เขาก็มีความรู้สึกแปลก ๆ ที่ผุดขึ้นมา มันเป็นความรู้สึกที่เย็นแบบวูบ ๆ ขึ้นมาทำให้ชวนขนลุก อยู่ ๆ เขาก็ได้ยินเสียงแปลก ๆ เหมือนคนเดินเหยียบกิ่งไม้ดังขึ้น แกร่ก.. และอยู่ทางด้านหลัง เขาได้พูดกับเพื่อนว่า จะหันหลังกลับไปดูกันดีไหม เพื่อนก็บอกว่า อย่าหันไปเลย และพวกเขาก็เดินกันไปต่อ