ตำนานรัก พรายตานี ไม่ว่าผู้ชายคนไหนที่ได้เจอแล้ว ไปหลงรักนางตานีแล้วไม่รีบหนี ระวังจะตายแบบไม่รู้ตัว ตรงนี้อย่าหาว่าไม่เตือน !!!
พรายตานี หลอนจนขนหัวลุก
เรื่องเล่าหลอน พรายตานี ซึ่งนางเป็นผีผู้หญิง เช่นเดียวกับนางตะเคียน นางตานีจะสิงสถิตอยู่ในดงต้นกล้วยตานี และต้องเป็นกล้วยตานีตายพรายเท่านั้น (ต้นกล้วยตานีที่ออกปลีแล้วตาย) ลักษณะ นางตานีจะมีรูปร่างหน้าตาสวยสดงดงาม ห่มสไบสีเขียว และนุ่งโจงกระเบนแบบหญิงโบราณชอบล่อผู้ชายไปลวนลาม และนางตานียังมีแรงหึงหวงที่น่ากลัวอีกด้วย เพราะถ้าชายใดที่มีอะไรกับนางแล้ว เมื่อไปมีผู้หญิงคนอื่นนางตานีก็จะตามไปอาฆาตชายผู้นั้นทันที ด้วยแรงหึงหวงนั้นเอง ความเชื่อของทางภาคใต้ จะมีการเกี้ยวพานางตานีแล้วขอเป็นเมีย ถ้านางตานียอมเป็นเมียจะมาเข้าฝันและมีอะไรกันในความฝัน เมื่อได้เป็นเมียแล้วจะต้องรักนางตานีเพียงคนเดียวห้ามมีเมียอื่น
แต่ถ้าต้องการที่จะมีเมียมนุษย์ก็สามารถที่จะมีได้ โดยการบอกกล่าวขอนางตานีก่อน ถ้านางตานีอนุญาตก็มีได้ แต่ถ้านางตานีไม่อนุญาตก็ห้ามมี เมื่อมีแล้วต้องทำการยกย่องให้นางตานีเป็นหลวง และเมียที่เป็นมนุษย์นั้นเป็นน้อย เราสามารถบอกกล่าวให้นางตานีช่วยในการทำมาหากินได้ ทราบเท่าที่อ่านมา นางตานีเป็นเทวดาชั้นล่างสุดชั้นจตุมหาราชิกา มีวิมานอยู่ในต้นกล้วย ไม่ได้เป็นคนแล้วตายเป็นผี แต่เป็นคนตายแล้วเกิดเป็นเทวดาแต่บุญน้อย และมีกรรมเลยต้องมาเป็นอย่างนี้ เทวดาบางองค์ก็มีวิมานที่จอมปลวกก็มี ต้นไม้ใหญ่ก็มาก การที่จะมีเมียเป็นนางตานีนั้นก็คงยาก เพราะไม่ใช่ผีเขามีบุญพอไม่อดเหมือนผี ต้องเข้าตานางตานีจริง ๆ ถึงนางจะมาอยู่ด้วย
- เคยได้ยินเรื่องเล่า
มีชายผู้หนึ่งไปมีอะไรกับนางตานีแล้วรักกันมาก จนเพื่อนสังเกตแล้วรู้ว่าได้เมียเป็นนางตานี ไม่ยอมเลิกจนเพื่อน ๆ กลัวเพื่อนจะตาย รีบไปปรึกษาพระแล้วทำพิธีการแยกเขาออกจากกัน ไอ้เขาก็ไม่ยอม จะไปหานางตานีท่าเดียว เหล่าเพื่อน ๆ จึงช่วยกันจับมัดไว้ที่ศาลาในวัด แล้วทำพิธีโดยการเชิญนางตานีไปที่อื่นหรือไปจุติใหม่ เพราะมนุษย์อยู่ร่วมกันไม่ได้กับนางตานี มันจะมีการถ่ายพลังกันแบบว่า หยินกันหยาง เมื่อหยินอ่อนหลงก็ถ่ายไปเพื่อให้เกิดสมดุล แต่คนที่เสียไปจะเป็นอันตราย เขาไม่ได้ดูดเอง แต่มันเป็นไปเอง ไม่งั้นก็คงไม่ต้องหาเมียที่เป็นมนุษย์กันแล้ว เพราะธรรมชาติเขาสร้างมาแบบนี้
ในระหว่างที่กำลังทำพิธีแยกอยู่นั้น ใจทั้ง 2 สื่อถึงกัน เพราะอยู่ด้วยกันมานาน นางตานีก็เรียกหาแต่ไปไม่ได้ ผู้ชายก็จะไปแต่โดนมัดไว้ที่วัด ก่อนที่นางตานีจะไปได้ส่งจิตมาถึงว่าให้เขาโชคดี หากเกิดในชาติต่อไปก็ขอให้เขามาเกิดเป็นคนด้วยเถอะ จะได้อยู่ด้วยกัน เขาก็ไม่อยากเกิดมาเป็นอย่างนี้ ผู้ชายเมื่อได้รับจิตที่ส่งมาถึงอันแรงกล้าของนางตานี และรู้ว่าจะจากความรู้สึกเสียใจที่จะจากกัน ไม่รู้ว่าจะได้เจอกันอีกมั้ย เขาก็สงบลงและร้องไห้ถึงเมียที่จากไป อาจเพราะบุญที่ทำมากันเมื่อชาติก่อน แต่เพราะบุญมีไม่ถึงจึงต้องจากกันในชาตินี้
- นางตานี
ในทางพุทธศาสนาไม่ถือว่านางตานีเป็นเทวดา แต่เป็นภูตชนิดหนึ่งที่เรียกว่า “โอปปาติกะ” จัดเป็นภูตที่เกิดขึ้นขณะร่างกายแตกดับไปแล้ว เรียกง่าย ๆ ว่า เป็นร่างต่อไปจากวิญญาณที่ไม่ได้ไปนรก แต่ได้เกิดเลย และไม่ได้เกิดเป็นคน ถ้าตายไปแล้วเกิดใหม่ในนรกเรียกว่า สัตว์นรก แต่นางตานีเกิดเป็น โอปปาติกะ เป็นภูตที่มีอิทธิฤทธิ์ ในตำราของนักพรตเต๋าก็มีจารึกเกี่ยวกับผีนางตานีของจีนเหมือนกันว่า ผีตานี เป็นผีสาวแต่งกายสีแดง มักจะคอยชายหนุ่มอยู่ที่ต้นกล้วย (เหมือนกันกับของไทยเราเลย) นางตานีเป็นผีที่มากด้วยกามราคะ แต่ไม่มีเขียนไว้ว่าเอาไปเป็นเมีย สำหรับการที่จะปราบนางตานีได้นั้น ต้องขุดต้นกล้วยตานีทั้งต้น (เอารากมาทั้งหมดเลย) แล้วทำการเผา รวมทั้งต้องสะกดวิญญาณไว้ในต้นกล้วยจะสามารถปราบได้ แต่ถ้าทำพิธีไม่สำเร็จเชิญผู้เข้าร่วมพิธีทุกท่านตัวใครตัวมัน
- ลักษณะของนางตานี
นางตานีจะมีรูปร่างหน้าตาสวยสด งดงาม ห่มสไบสีเขียว และนุ่งโจงกระเบนแบบหญิงโบราณชอบล่อผู้ชายไปลวนลาม และนางตานียังมีแรงหึงหวงที่น่ากลัวอีกด้วย เพราะถ้าชายที่มีอะไรกับนางแล้ว เมื่อไปมีผู้หญิงคนอื่นนางตานีก็จะตามไปอาฆาตชายผู้นั้นทันที ด้วยแรงหึงหวงนั้นเอง ความเชื่อของคนในสมัยโบราณเกี่ยวกับนางตานี โดยเหตุที่พรายนางตานีเป็นผี ชาวบ้านจึงไม่กล้าปลูกกล้วยตานีไว้ใกล้เรือน ถ้าจะตัดเอาใบตองไปใช้ ก็ห้ามไม่ให้ตัดเอาไปทั้งใบ ต้องเจียนเอามาแต่ใบตองเท่านั้น หรือไม่ก็ต้องหักก้านใบตองเสียก่อน เพราะถ้าตัดเอาเข้ามาในเรือนทั้งใบ ถือเป็นลางร้ายว่าจะมีใครในบ้านนั้นตายลงในไม่ช้า ทั้งนี้เห็นเนื่องจากคติเดิมที่ใช้ใบตองกล้วยตานีสามใบรองก้นของโลงศพ กล้วยตานีนี้ถ้าถึงคราวออกปลี จะมีพิธีพลีพรายนางตานี เครื่องพลีจะมีหัวหมูบายศรี สำรับคาวหวาน ของหวานก็มีขนมต้มแดงต้มขาว นอกจากนี้ยังมีข้าวตอกดอกไม้ธูปเทียน น้ำหอม เครื่องหอม แป้ง กระแจะจันทน์ เป็นต้น เอาแหวนและสร้อยทองคำไปคล้องที่งวงปลีกล้วยเป็นเครื่องประดับ และนำผ้าผืนหนึ่งจะเป็นผ้าสีแดงหรือสีอะไรก็ได้ ไปพันรอบต้นกล้วยตานี เป็นต่างว่าได้นุ่งห่มให้แก่พรายนางตานีแล้ว ขอให้คุ้มครองรักษาคนในบ้าน และให้มีลาภ บางทีมักนิยมนิมนต์พระสงฆ์ไปสวดมนต์ทำบุญที่บ้านด้วย บางทีหมอที่ทำพิธี เมื่อเซ่นไหว้แล้ว นำดอกในปลีกล้วยตานีไปตากแดดให้แห้งแล้วบดให้เป็นผงผสมกับผงอิธเจ คือผงของดินสอขาวที่ลงยันต์ซึ่งเขียนเกี่ยวกับเรื่องนี้
สำหรับใช้ในทางให้เกิดเสน่ห์ เป็นเมตตามหานิยม ในบางทีก็เอาดอกในปลีกล้วยตานีไปใส่ไว้ในตลับขี้ผึ้งสีปากซึ่งปลุกเสกแล้ว ใช้สำหรับสีปากเพื่อให้เกิดเสน่ห์เป็นเมตตามหานิยม เมื่อใช้ขี้ผึ้งนี้สีปากแล้ว แย้มปากพูดออกมาก็มีเสน่ห์ กระทำให้ผู้ใหญ่มีเมตตา ในทางตรงกันข้าม ถ้าผู้หญิงทาขี้ผึ้งนี้แล้ว เมื่อแย้มปากพูดออกมา ผู้ชายก็จะเกิดความรักขึ้นในทันทีเช่นเดียวกัน ถ้ากล้วยตานีที่ทำพิธีเซ่นไหว้แล้วออกปลีกลางต้น ก็ถือกันว่ากล้วยตานีนั้นเกิดมีพรายนางตานีขึ้นแล้ว
ถ้าเป็นผู้รู้เรื่องเกี่ยวกับพรายนางตานี ก็จะไปทำพิธีเซ่นไหว้นั้น เป็นทำนองเดียวกับที่กล่าวมาแล้วข้างต้น แล้วไปที่ต้นกล้วยตานีนั้นในเวลากลางคืนในทุก ๆ คืน สุดแต่โอกาสจะอำนวยให้ พอไปถึงก็กล่าวคำเกี้ยวพาประเล้าประโลมพรายนางตานี ต้องตั้งความเพียรไปเกี้ยว จนกว่าพรายนางตานีจะใจอ่อนเห็นอกเห็นใจ แล้วจากนั้นให้เอามีดเฉือนตอนโคนกล้วยที่มีลักษณะเป็นเหมือนเหง้าเอามาก้อนหนึ่ง แล้วแกะสลักเป็นรูปผู้หญิงใส่ตลับหรือภาชนะอื่นเอาไว้ และต้องเซ่นไหว้ทุกเช้าเย็น ทำอย่างนี้อยู่หลาย ๆ วัน พรายนางตานีก็จะมาปรากฏร่างให้เห็นในความฝัน เป็นผู้หญิงสาวรูปร่างหน้าตาสะสวยงดงาม สมดั่งใจที่เคยนึกเคยพะวงเป็นจินตนาการมาก่อน แล้วการที่นางจะยอมตนเป็นเมียผู้นั้น อันเป็นความฝันอีกเหมือนกัน เมื่อได้นางพรายตานีเป็นเมียแล้ว ชายคนนั้นจะไปมีเมียอื่นอีกไม่ได้อีก ถ้ามีก็มักเป็นอันตราย ถ้าต้องการจะมีเมียจริง ๆ ก็อาจทำได้ โดยบอกกล่าวขออนุญาตพรายนางตานีเสียก่อน พรายนางตานีนั้นเป็นเมียที่ดี เมื่อเห็นสามีซื่อสัตย์ไม่ปิดบังความจริง ก็จะอนุญาตให้ผู้นั้นมีได้ ซ้ำยังจะช่วยเหลือเพื่อให้การนั้นสำเร็จไปด้วยดีอีกด้วย ไม่มีหึงหวง หรือร้องไห้ตีโพยตีพายเหมือนเมียมนุษย์
ขอขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก : ตำนานนางตานี