สุดยอด เรื่องเล่าของช่างแต่งหน้า ที่ได้สัญญากับลูกค้าท่านหนึ่งเอาไว้ว่าจะไปแต่งหน้าเจ้าสาวให้ลูกของเขา ซึ่งจะน่ากลัวแค่ไหนไปดูกัน
ขนหัวลุกกับ เรื่องเล่าของช่างแต่งหน้า ที่จะต้องไปทำตามสัญญา
เรื่องเล่าของช่างแต่งหน้า เรื่องนี้เป็นเรื่องของ ช่างแต่งหน้า ท่านหนึ่งขอสมมุติว่าเขาชื่อว่า คุณเอ ซึ่งตัวคุณเอนั้นได้มีลูกค้าคนสนิทของเขา นามสมมุติคุณบี คุณบีเวลาจะออกงานไม่ว่าจะเป็นงานเล็กหรือใหญ่ ก็จะมาใช้บริการกับคุณเออยู่ตลอด จนกระทั่งวันหนึ่งคุณบีนั้นได้บอกกับคุณเอว่า
คุณบี : “ถ้าลูกสาวพี่แต่งงาน น้องไปแต่งหน้าให้ลูกสาวพี่ด้วยนะ”
ซึ่งในตอนนี้คุณเอก็ตกปากรับคำทางคุณบีเอาไว้ จนกระทั่งเวลาผ่านไปลูกสาวของคุณบีนั้นได้ทำการติดต่อมาหาคุณเอ และบอกว่าจะทำการแต่งหน้าเจ้าสาว ซึ่งทางฝั่งของคุณเอนั้นเมื่อทำการดูตารางงานก็กลับพบว่าเขามีงานอยู่แล้ววันนั้น ซึ่งทางเขาก็ได้มีการสอบถามทางด้านเวลา สถานที่ ซึ่งทางลูกสาวของคุณบีนั้นก็ได้บอกกับคุณเอว่า
ลูกสาวคุณบี : “ คุณแม่เขาอยากให้เป็นพี่คนเดียวเท่านั้นที่แต่งหน้าให้หนูวันแต่งงาน”
ซึ่งทางฝั่งของคุณเอเมื่อรู้เวลา และสถานที่จึงได้ทำการยืนยัน รับคำไป เพราะเรื่องของเวลา และเรื่องสถานที่นั้นเมื่อคำนวณแล้วมันน่าจะทัน เพราะอีกงานเป็นงานเช้า อีกงานเป็นงานเย็น ซึ่งเมื่อเขารับปากแล้วพอถึงใกล้วันงาน เขาได้โทรหาทางคุณบีเพื่อที่จะทำการโอนมัดจำก่อน ซึ่งโทรยังไงคุณบีก็ไม่รับสาย แต่เขาก็ได้คิดอะไร ในคืนนั้นเข้ากำลังที่จะเข้านอน เขาได้ยินเสียงหมาเห่า หมาหอนเสียงดังอย่างมาก เขาจึงได้ลุกมาดูที่หน้าต่าง เขากลับพบเห็นคุณบีนั้นยืนอยู่ที่หน้าบ้าน
เมื่อเขาเห็นดังนั้นเขาก็งงว่าทำไมพี่บีมาหาดึกดื่นแบบนี้ เขาเลยได้เดินลงไปหาพี่บีที่หน้าบ้าน หลังจากนั้นเขาก็เห็นสีหน้าพี่บีที่แลดูเศร้า ซึม เขาจึงได้ทำการสอบถามว่าพี่บีเป็นอะไรหรือเปล่า ซึ่งทางพี่บีนั้นได้บอกกับเขาว่า “อย่าลืมสัญญาที่เคยให้พี่ไว้นะเอ” ทางฝั่งของคุณเอเองก็งง ๆ ว่าสัญญาอะไร พอคุณเอกำลังจะอ้าปากถามว่าสัญญาอะไร ทางฝั่งของคุณบีก็พูดว่า
คุณบี : “เอจะต้องแต่งหน้าลูกสาวพี่วันแต่งงานเขาให้สวย ๆ นะ ต้องไปให้ได้นะ ต้องแต่งหน้าให้ลูกพี่ให้ได้นะ พี่ไว้ใจเอ และต้องเป็นเอเท่านั้น”
เมื่อคุณเอได้ยินดังนั้นจึงรับปากเรื่องการแต่งหน้ากลับไป เมื่อจบการสนทนาทางฝั่งของคุณเอก็เดินกลับเข้าบ้าน และไม่ได้ทำการติดต่อไปหาทางฝั่งของลูกสาวคุณบีอีกเลย เพราะเขาคิดแค่ว่าคุณเอนั้นเป็นลูกค้าประจำอยู่แล้ว ยังไงก็ไม่เบี้ยวหรอก เลยไม่ทำการติดต่อไปเพราะที่เก็บมัดจำ
และเมื่อใกล้ถึงวันแต่งงาน ทางฝั่งของคุณเอนั้นก็ได้จ้างวานให้เพื่อนนั้นมาเพื่อที่จะไปช่วยการแต่งหน้าทำผม ซึ่งเพื่อนของเขาคนนี้เป็นคนที่มีเซ้นท์เรื่องวิญญาณ ซึ่งในวันก่อนหน้าที่เขาจะไปแต่งหน้านั้น ทั้ง 2 คนจะต้องมาทำการเตรียมของ และจะต้องมานอนที่บ้านของคุณเอ เพื่อที่จะได้ออกเดินทางไปแต่งหน้าตอนเช้าตรู่นั่นเอง ซึ่งในคืนนั้นขณะที่ทุกคนกำลังเข้านอน หมาก็เห่าหอนกันอีกเหมือนเดิม ซึ่งทางฝั่งของคุณเอนั้นได้ลุกขึ้นมาดู และเห็นว่าพี่บีเขามาหาที่หน้าบ้านอีกแล้ว
ในขณะที่คุณเอนั้นกำลังงัวเงีย จึงได้หันมาพูดกับเพื่อนของเขาว่า “เดี๋ยวมานะมึง กูไปคุยกะลูกค้ากูก่อน ทำไมชอบมาดึก ๆ ไม่รู้” เมื่อเขาพูดจบเขาก็เดินลงไปคุยกับพี่เอ แต่ในวันนี้ทางฝั่งพี่เอนั้นมีเสียหน้าที่เปลี่ยนไป จากวันนี้สีหน้าเขาดูเศร้า แต่วันนี้สีหน้าเขาดูดีใจ ซึ่งทางฝั่งของคุณเอนั้นก็คิดว่าเขาคงจะตื่นเต้นที่พรุ่งนี้ลูกสาวเขานั้นจะแต่งงาน ซึ่งทางฝั่งของคุณเอก็ได้ถามว่า “พี่บีมีอะไรหรือเปล่าคะ” ทางฝั่งของคุณบีก็บอกว่า
คุณบี : “ไม่มีอะไร พี่แค่จะแวะมาขอบคุณเฉย ๆ พรุ่งนี้เอาให้เต็มที่เลยนะ พี่คงไม่มีเวลาที่จะดูอะไรมาก พอดีพี่จะต้องไปแล้ว”
ซึ่งทางฝั่งของคุณเอด้วยความที่งัวเงียพึ่งตื่นนอน เขาก็ไม่ได้คิดอะไรมาก คิดแค่ว่าพรุ่งนี้คุณบีจะต้องยุ่งเรื่องการรับแขกจนไม่มีเวลามาดูเราแต่งหน้าให้ลูกสาวเขาแน่นอนเลย เขาได้กลับเข้าไปในบ้าน จากนั้นทางฝั่งของเพื่อนคุณเอได้ทำการเขย่าที่ตัวของเขา และถามว่า “มึงเดินละเมอหรอ ตื่น ๆ” เขาก็ได้ตอบกับเพื่อนว่า “ ละเมอบ้าอะไรละ ลงไปคุยกับลูกค้า” ทางฝั่งของเพื่อก็เถียงว่า
เพื่อนคุณเอ : “กูไม่เห็นว่ามึงไปคุยกับใครเลย กูเห็นว่ามึงยืนคุยอยู่คนเดียว”
ซึ่งทั้ง2คนต่างก็ถกเถียงกันจนทุกคนตกลงว่าเดี๋ยวพรุ่งนี้จะเปิดกล้องวงจรปิดให้ดู จะได้จบ ๆ ซึ่งเมื่อตอนเช้าเขาก็ได้ทำการไปแต่งหน้าที่บ้านเจ้าสาวบ้านแรก ก็ราบรื่นไปได้ด้วยดี จากนั้นเขาก็เดินทางไปยังบ้านของคุณบี ซึ่งระยะทางนั้นไม่ได้ไกลมาก แต่ทางนั้นมีความซับซ้อน ซึ่งทางฝั่งของคุณเอเองก็ไม่เคยไป ก็กลัวว่าจะไปไม่ถูก แต่ผิดคาดจากที่พวกเขาเดาเอาไว้ จากที่เขาเผื่อเวลาเรื่องการเดินทางเอาไว้ กลายเป็นว่าเขาถึงบ้านคุณเอก่อนเวลาเสียอีก ซึ่งเมื่อพวกเขาถึงสถานที่แล้วเขาก็ได้ทำการแต่งหน้าสาวเจ้า เครียทุกอย่าง แต่ที่เขาคิดว่ามันแปลก ๆ ก็คือตั้งแต่เขามาเขายังไม่เห็นคุณบีเลย แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไร ก็คิดว่าน่าจะยุ่งอยู่ที่ไหนสักที่ เมื่อเขาแต่งหน้าเสร็จ ด้วยความที่ว่าเขาสนิทกับคุณบีอยู่พอสมควร เขาจึงได้อยู่ร่วมในงานต่อ
เมื่อถึงช่วงเวลาที่เจ้าบ่าวสาวนั้นได้ขึ้นเวลาเพื่อกล่าวขอบคุณแขกภายในงาน เจ้าสาวก็ได้ขอบคุณ และพูดส่งท้ายว่าขอบคุณแม่ที่ถึงแม้ไม่ได้อยู่ด้วยแล้วแต่หนูก็ดีใจที่ทำให้หนูมีวันนี้ ซึ่งทางฝั่งของเอก็งงว่าทำไมเขาไม่อยู่ในงาน ไม่ขึ้นไปกล่าวคำอวยพรลูกบนเวที เขาจึงได้สะกิดถามญาติที่อยู่ในงาน ทางฝั่งของญาติบอกกับเขาว่า
ญาติคุณบี : “บีมันเสียได้ 3 เดือนแล้วลูก”
ซึ่งทางฝั่งของเอนั้นก็ตกใจ ในหัวเขามีคำถามมากมาย เมื่อคืนเขาเจอใคร เมื่อเขากลับถึงบ้านทางฝั่งของเพื่อนเขาก็ยังยืนยันว่าเห็นเขาพูดคนเดียว จากนั้นเขาได้มาดูกล้องวงจรปิด เขาก็เห็นว่าตัวเองนั้นยืนคุยอยู่คนเดียวจริง ๆ เมื่อเรื่องราวผ่านไปได้อาทิตย์หนึ่ง เอก็ได้ติดต่อลูกสาวคุณบีไป และได้ถามเรื่องราวของคุณบี ซึ่งทางลูกสาวเขาก็บอกว่า
ลูกสาวคุณบี : “แม่เสียก่อนที่หนูจะติดต่อให้พี่ไปแต่งหน้าประมาณเดือน 1 ค่ะพี่”
ซึ่งนั่นก็แปลว่าที่เขาเจอคุณบีทั้ง 2 รอบนั้น คุณบีไม่ใช่คนแล้ว แต่เค้าคือวิญญาณที่ยังมีความห่วงเรื่องงานแต่งของลูกสาวของเขาอยู่นั่นเอง ซึ่งทางฝั่งของเพื่อนเขาด้วยความที่มีเซ้นท์ในเรื่องแบบนี้อยู่แล้ว ก็มาเล่าว่า วันก่อนหน้างานแต่งกูขับรถมาแต่เห็นผู้หญิงคนหนึ่งยืนอยู่หน้าบ้าน แต่เมื่อขับรถไปใกล้ ๆ ผู้หญิงคนนั้นก็หายไป ซึ่งเขาคิดว่าน่าจะเป็นวิญญาณแถวนั้น แต่ในวันที่เขาแต่งหน้าอยู่ที่บ้านคุณบีนั้น เขาก็เห็นผู้หญิงวัยกลางคน เดินไปเดินมา ซึ่งก็คิอว่าเป็นญาติในงาน และเขาก็บอกลักษณะของผู้หญิงคนนั้นซึ่งแน่นอนว่ามันตรงกับคุณบี
นอกจากนี้เพื่อนเขายังบอกอีกว่า ผู้หญิงคนนั้นเดินมาดูมึงแต่งหน้าหลายรอบมาก ครั้งแรกคิดว่าเขาจะมารอแต่งหน้า แต่พอเจ้าสาวแต่งเสร็จกูก็ไม่เจอเขาอีกเลย ซึ่งเอด้วยความที่อยากรู้เขาจึงได้เปิดรูปคนที่เขาเคยแต่งหน้าขึ้นมา ซึ่งหนึ่งในนั้นก็มีรูปคุณบีด้วยเช่นกัน เขาจึงให้เพื่อนเลือกดูว่าคนไหนที่เห็นในงาน ซึ่งเขาก็จิ้มไปที่รูปคุณบีทันที และบอกว่าคนนี้เลย ซึ่งเอก็พูดขึ้นทันทีว่านี่แหละคือแม่เจ้าสาวที่เสียไป
ขอบคุณรูปภาพประกอบจาก : kapook