เมืองลับแล

เมืองลับแล ตำนานเมืองคนดี

ตำนาน เมืองลับแล ในประเทศไทย ขึ้นชื่อ และมีความเชื่อว่ามีอยู่จริง มารู้จักกับสถานที่ เมืองลับแลกันว่ามีที่ใดบ้าง วันนี้เราจะพาทุกท่านไปพิสูจน์

รู้จัก เมืองลับแล ความเชื่อที่มีอยู่จริง ท้าพิสูจน์

วันนี้เราจะพาทุกท่านไปไขปริศนา ความเชื่อของคนไทย กับสถานที่มีอยู่จริง ที่เป็นเส้นขนานกับโลกที่เป็นอยู่ของเรา เมืองลับแล เมืองที่มีอยู่จริง มาดูกันว่ามีที่ไหนบ้าง แตะละที่ นั้นมีตำนานอย่างไรบ้าง ไม่ควรพลาด

ตำนาน

5 ตำนานเมืองลับแล 

  1. เมืองเขางู ถือว่าสถานที่แห่งนี้เป็นแลนด์มาร์กของจังหวัดราชบุรี และยังเป็นสถานที่เที่ยวที่เหมาะกับสายมูเป็นอย่างมาก จากคำบอกเล่าของชาวบ้านนัั้นได้เล่าว่า เขางู เป็นเมืองลับแล ที่ถ้ำแห่งนี้สามารถทะลุผ่านไปยังเมืองลับแลได้ ซึ่งได้ทีผู้คนชาวลับแลได้อาศัยอยู่ แต่ไม่มีผู้ใดอาศัยอยู่ สามารถบริเวณนั้นจะมีถ้ำ โดยประตูปากถ้ำได้มีการทำกำแพงเอาไว้ ต่อมาทางจังหวัดต้องการบูรณะที่ตรงนั้น จึงนำรถไถดินมาไถ ทำให้ดินไปกองอยู่ที่หน้าถ้ำ ทำให้ปากถ้ำนั้นที่เป็นเสมือนกำแพงที่เล่าเป็นตำนานนั้นได้หายไป และนี่จึงเป็นที่มาของถ้ำฝาโถ ที่อยู่ในบริการถ้ำเขางู 
เขางู เมืองลับแล

บางคนเชื่อว่าเดิมที เป็นที่อาศัยอยู่ของพญางู บ้างก็ว่าเขานี้ได้มีลักษณะคดเคี้ยวคล้ายงูเลื้อย ชื่อเขางูจึงได้ปรากฏในวงสาวดารที่ 1 มีมาก่อนการสร้างกรุงเทพฯ อีกด้วย และยังมีการค้นพบซากวัถุโบราณมากมายภายในถ้ำ จึงเชื่อว่าสถานที่แห่งนั้นมีคนเคยอาศัยอยู่ที่นั่นเมื่อหลายพันปีก่อน และเชื่อว่าอาจจะเป็นชาวลับแลก็เป็นได้

  1. เมืองเขาวังสะดึง ตั้งอยู่ในพื้นที่ตำบลเขาแล้ง จังหวัดราชบุรี เชื่อกันว่าชาวเมืองลับแลอาศัยอยู่ในถ้ำแห่งนี้ ที่วันดีคืนดีก็มักจะได้ยินเสียงดนตรีไทยวงปีพากย์ดังแผ่ว ๆ มาจากในถ้ำ แต่ไม่สามารถที่จะหาแหล่งที่มาได้ ชาวเมืองลับแลนั้นจะมีความซื่อสัตย์ ไม่พูดโกหก แถมยังไม่อยากที่จะเอาของคนอื่นมาเป็นของตัวเอง ขยันทำมาหากิน ซื่อตรง รักเดียวใจเดียว ไม่ลักเล็ก ขโมยน้อย มักจะอยู่กันเป็นกลุ่ม จะพบเห็นคนเมืองลับแลได้ก็ต่อเมื่อเวลาใกล้ค่ำ ชาวลับแลจะออกมาอาบน้ำด้านหน้าของเราวังสะดึง 
เมืองเขาวังสะดึง เมืองลับแล

โดยชาวลับแลนั้นจะมีข้าวของ เครื่องใช้มากมาย จนชาวบ้านนั้นได้ไปหยิบยืม จนบางครั้งชาวบ้านนั้นไม่คืน ชาวลับแลจึงเกิดความเบื่อหน่ายที่ถูกเอารัด เอาเปรียบ และผิดสัญญา จึงได้ปิดปากถ้ำ จึงไม่ออกมาติดต่อกับคนภายนอกอีก และไม่ให้ใครได้เข้าไปอีกเลย โดยด้านทิศตะวันออกของปากถ้ำจะมีหินขนาดใหญ่ปิดปากถ้ำซ้อนกันอยู่ ทำให้ในปัจจุบันนั้นไม่สามารถเข้าไปภายในถ้ำได้

  1. เมืองเขากลาง ตลาดจอมบึง ผู้สูงอายุต่างก็เล่าต่อ ๆ กันมาว่า จากปากต่อปาก แต่ทุกครั้งมักเล่าเป็นเรื่องเดียวกันดังนี้ วันดีคืนดี มีชาวบ้านจะได้ยินเสียงวงปีพากย์ดังมาจากเพลิงผาหน้าถ้ำ เป็นดินแดงลี้ลับ ที่นั่นเป็นเขตแดนของชาวเมืองลับแล สมัยก่อนนานมาแล้ว เวลาชาวบ้านจะมีงานเลี้ยงในหมู่บ้าน จะบนบานไว้ก่อนว่าเวลาจะยืมของอะไรนั้นจะขอไว้ก่อน 
เขากลาง เมืองลับแล

รุ่งขึ้นก็จะมีสิ่งของที่ได้ขอยืม วางให้พร้อม เมื่อชาวบ้านใช้งานเสร็จเมื่อไหร่ก็ทำความสะอาด และนำมาคืนที่เดิมภายในถ้ำ ทุกรายมักจะปฏิบัติเช่นนี้เสมอ แต่ละมีรายหนึ่งเกิดความโลภมาก อยากได้บางสิ่งไว้ใช้ตลอดไป จึงได้ส่งของคืนไม่ครบจำนวน ชาวลับแลจึงไม่พอใจ ถือว่าเป็นการทำผิดกติกาอย่างแรง ตั้งแต่นั้นมากเวลาชาวบ้านได้บนขออะไร ก็ไม่มีสิ่งขอมาให้ยืมอีก และหินตรงปากถ้ำก็เลื่อนลงมาปิดสนิท เหลือเพียงเรื่องเล่าสืบต่อกันมาหลายช่วงอายุคน จึงเห็นได้ว่าชาวลับแลแต่ละที่ นั้นจะมีนิสัยเหมือนกัน คือการไม่ชอบคนผิดสัญญา ไม่ชอบคนโกหก 

4.  เมืองบังบด บึงกาฬ เกิดจากหลวงปู่ ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเทพเจ้าแห่งภูลังกา ได้ต้องการที่จะบวชแต่อายุไม่ถึง หลวงตาจึงให้นุ่งขาว ห่มขาว ถือศีล 8 ไปก่อน มีอยู่วันหนึ่งหลายชายได้ออกไปหาอาหาร และไม่กลับมา พระ เณร ได้ออกตามหาก็หาไม่เจอ หลวงปู่จึงนั่งสมาธิจึงพบว่าหลานของท่านนั้นได้ไปอยู่กินกับสาวสวยที่เมืองลับแล ตามบุพเพสันนิวาส ที่เป็นเนื้อคู่กัน หัวหน้าเมืองลับแลได้บวกหลวงปู่ว่า หลานชายนั้นเข้ามาอยู่ในเมืองอย่างถูกต้อง ตามจารีต ประเพณี จะกลับออกไปไม่ได้ นอกจากจะทำผิดจารีตเท่านั้น 

เมืองบังบด เมืองลับแล

หลวงปู่นั้นเข้าใจเหตุผลดี แต่เพียงแต่กังวลว่าจะบอกญาติไปก็คงไม่มีใครเชื่อ เรื่องเมืองลับแลนี้อย่างแน่นอน หัวหน้าเมืองลับแลจึงบอกว่า ให้คนที่อย่าเจอนั้นนุ่งขาว ห่มขาว ถือศีล 8 จะส่งคนไปรับเพื่อเข้าเมืองลับแล หรือตะโกนเรียกหลานชายในกลางแจ้ง จะมีแต่เสียง จะไม่เห็นตัวหลานชายเด็ดขาด พระ เณร จึงตัดสินใจออกไปตอนกลางแจ้ง ปรากฏว่า ได้ยินเสียง และได้พูดคุยกับหลานชาย และเขาพอใจที่จะอยู่กินกับภรรยา หลายชายได้บอกว่าบุคคลเหล่านี้ ไม่ได้เป็นภูตผี แต่อย่างใด และการที่ได้มาอยู่จึงได้รู้ว่าเมืองแห่งสุขนั้นคืออะไร

5.  เมืองลับ อุตรดิตถ์ เป็นชุมชนโบราณ ที่มีมาตั้งแต่สมัยกรุงสุโขทัย จากหลักฐานทางประวัติศาสตร์เดิมที่เชื่อว่า คนของพวกละว้า และขอม เมืองล่มสลายของไทย ก็ได้เข้ามาครอบครองแทน เมืองลับแลนั้นเป็นอำเภอเล็ก ๆ ที่การเดินทางไม่สะดวก ใครที่ไม่ชำนาญนั้นมักพลัดหลงได้ง่าย ๆ และเมืองนี้มีตำนานที่เล่ากันว่า ชายคนหนึ่งได้ติดตามผู้หญิงที่เดิมในป่า ได้เข้าไปยังเมืองลับแล และสังเกตว่าในเมืองนั้นมีแต่ผู้หญิง 

เมืองลับแล

และคนในหมู่บ้านนั้นล้วนแต่มีศีลธรรม ถือวาจา ใครที่ประพฤติผิดต้องออกจากหมู่บ้าน ผู้ชายส่วนมากไม่รักษาวาจา จึงต้องออกกันหมด สุดท้ายชายหนุ่มได้ตกหลุมรักหญิงสาว จึงขออาศัยอยู่ด้วย และชายหนุ่มได้ให้สัญญากับแม่ของหญิงสาวว่าจะอยู่ในศีลธรรม และได้รับการยินยอม จนทั้งสองได้แต่งาน จนมีลูกด้วยกัน 

อยู่มาวันหนึ่ง ทางภรรยาไม่อยู่บ้าน ลูกร้องหาแม่ไม่ยอมหยุด สามีจึงปลอบไปว่า แม่มาแล้ว แม่ของภรรยาได้ยินเข้าจึงโกรธ ที่ทางชายคนนั้นได้พูดโกหก ภรรยาจึงจำใจต้องให้สามีออกจากบ้าน เพราะไม่รักษาวาจา ภรรยาจึงจำใจต้องให้ออกจากหมู่บ้าน พร้อมกับให้หัวขมิ้นมาจำนวนมาก แต่ขมิ้นนั้นได้หนักขึ้นเรื่อย ๆ จึงทำให้ชายคนนั้นทิ้งขมิ้นตลอดทาง พอถึงบ้านจะได้พบว่าขมิ้นนั้นเป็นทอง จึงได้เกิดอาการเสียดายขึ้นมา และได้ย้อนกลับไปดูก็พบว่าเป็นเพียงขมิ้นเท่านั้น 

เรียกได้ว่าเป็นความเชื่อ ที่เป็นเรื่องเล่าที่เชื่อถือได้จริง ๆ แถมยังน่าสนใจสุด ๆ กับเรื่องเมืองลับแล หากคุณชื่อชอบเรื่องลี้ลับ เรื่อระทึกขวัญ เรื่องผี เรื่องหลอน ๆ ก็สามารถติดตามได้ผ่านเว็บของเรา รับรองว่ามีเรื่องเด็ด ๆ แปลกใหม่มาพร้อมบริการทุกท่านอย่างแน่นอน บอกได้เลยว่าไม่ควรพลาดเด็ดขาด เรื่องลี้ลับ ตำนานเมืองลับแล

ขอบคุณรูปภาพ : https://www.sanook.com/horoscope/108313/

เมืองลับ