อยู่กับผี

อยู่กับผี มาตลอด 8 ปี เฮี้ยนสุด ๆ

เรื่องเล่าสยองขวัญ อยู่กับผี เรื่องจริงที่ผู้หญิงคนหนึ่งโดนฆ่าตายที่ตึกที่แตงโมเข้าไปอยู่ แล้วมารู้ทีหลังว่าเขาอยู่ด้วยตลอด หลอนมากก!!

เมื่อมารู้ว่า อยู่กับผี มาโดยตลอด หลอนมากเมื่อได้มารู้ความจริง

เรื่องเล่าลี้ลับ อยู่กับผี เราชื่อแตงโม กับประสบการณ์ขนหัวลุกของเรานั้น มันเกิดขึ้นตั้งแต่เราอายุได้ 6 ขวบ ในตอนนั้นเรากำลังเรียนอยู่ชั้น ป.1 ซึ่งช่วงนั้นคุณแม่ของเราได้ซื้อบ้านไว้หลังหนึ่ง โดยเป็นบ้านตึกแถวไม่เคยมีคนอยู่อาศัยมาก่อนเลย และด้านหลังตึกแถวจะเป็นซอยเข้าไป เป็นบ้านทาวน์โฮมสองชั้น ซึ่งจะมีคนซื้อไว้เป็นบ้านพักอาศัย สำหรับด้านหน้าจะซื้อไว้เป็นออฟฟิศ หรือตั้งเป็นบริษัทมากกว่าเป็นที่อยู่อาศัย

ซึ่งในช่วงแรก แม่ของเรากับพี่ได้แวะเวียนมาดูบ้านก่อนที่จะซื้อ โดยเป็นบ้านตึกแถว 3 ชั้น 2 คูหา คุณแม่กับลูกและเซลล์ขายบ้านเขาก็พาเราเปิดบ้านสำรวจ และพวกเราดูบ้านตั้งแต่ชั้นหนึ่ง เราสังเกตว่า จะมีกองไฟเก่า ๆ ตั้งอยู่กลางบ้านทุกชั้นเลย ชั้นสองชั้นสามก็มี และทั้งชั้นสามเหมือนจะมีกองใหญ่สุด ทางคุณแม่ก็ได้ถามเซลล์ว่าทำไมมีกองไฟ เซลล์ก็บอกว่า บางทีก็มีวัยรุ่นงัดเข้ามาเสพยาบ้าง เพราะเห็นว่าเป็นตึกเปล่า ไม่มีคนอยู่อาศัยนั่นเอง

ซึ่งตึกนี้เป็นตึกที่ติดถนนเส้นหลักเลย เพื่อนบ้านส่วนมากเขาจะเปิดเป็นบริษัทกัน แล้วคุณแม่ก็ตัดสินใจซื้อตึกนี้ ทางพวกเราก็ย้ายเข้ามาที่บ้านหลังนี้ หลังจากที่แม่ซื้อบ้านหลังนี้ ก็ให้เหล่าช่างมาตกแต่งภายในจนสวยงามใหม่เอี่ยม ปลูกด้วยไม้เป็นเฟอร์นิเจอร์แกะสลัก ส่วนตัวคุณแม่เองจะเป็นคนชอบงานไม้มาก บ้านหลังไหน ๆ ก็ต้องประดับด้วยตู้โชว์ตู้แก้วและงานไม้เป็นหลัก และหลังจากทำบุญขึ้นบ้านใหม่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทางเรากับครอบครัวก็ย้ายเข้ามาอยู่อย่างเต็มตัว ดูเหมือนเป็นเรื่องธรรมดา แต่ว่าเรื่องมันกำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว

อยู่กับผี

เมื่อเราและครอบครัวนั้นได้เข้ามาอยู่ในบ้านหลังนี้

ก็เกิดอะไรขึ้นแปลกประหลาดขึ้นหลายอย่าง ที่ไม่ว่าคนจะอยู่ในบ้านเยอะแค่ไหน ก็รู้สึกแปลก ๆ และเวลาที่เดินไปหลังบ้านเพื่อเดินไปที่ครัวทุกคนก็จะรู้สึกเสียวสันหลังอยู่ตลอด ซึ่งหลายเหตุการณ์เริ่มเกิดขึ้น บ้านของเราเริ่มมีปัญหาเรื่องธุรกิจ จากที่มีพี่เลี้ยง แม่บ้านสองคน จากที่คุณพ่อทำงานเป็นผู้รับเหมาที่มีรายได้ที่ถือว่าเยอะมาก ไม่อดอยาก ฐานะดีมาก อยู่ดี ๆ คุณพ่อก็โดนโกง จนถึงขั้นล้มละลายกันเลย

ส่วนคุณแม่ก็เป็นแม่บ้าน แต่ก็หัดค้าขายเป็นนายหน้าขายที่ดินบ้าง แต่ก็ยังมีที่ดินช่วยเหลือคุณพ่ออีกที ส่วนตากับพี่สาวยายนั้น ก็มาล้มป่วยด้วยโรคชรา ในตอนนั้นเราอายุราว ๆ 9 ขวบกลับกลายเป็นว่า คุณแม่ได้ไปบ้านตา และพี่สาวยายทุก ๆ วัน เพื่อไปดูแลท่านและไม่ค่อยมีเวลาได้กลับบ้านกันเท่าไหร่ จนกระทั่งท่านเสีย ซึ่งเราก็ไม่ค่อยได้เจอแม่เลยในช่วงนั้น

ส่วนคุณพ่อ ตอนเช้าก็ส่งเรากับพี่ไปโรงเรียนกัน และในส่วนตอนเย็นก็กลับเอง โดยการขึ้นสองแถวกับพี่ชาย จากเมื่อก่อนคุณพ่อต้องไปรับเรา เช้าเย็น แต่ช่วงที่บ้านเป็นแบบนี้เลยต้องช่วยกัน อีกทั้งบางวันพ่อก็กลับดึกจนบางวันหลับไปแล้ว ตื่นขึ้นมาถึงเจอพ่อในตอนเช้า ส่วนกับข้าวแม่จะซื้อหมู ซื้อไข่ ซื้อไก่ หรือช่วงหนัก ๆ ก็จะซื้อมาม่าและปลากระป๋องอย่างละแพ็กเอาไว้ให้ทางเรากับพี่ชาย จะบอกว่าช่วงที่หนักจริง ๆ หลังเลิกเรียนบางวันจะมีแค่นมเท่านั้น พี่ชายเราเหลือเงินแค่ 20 บาทจะวิ่งไปซื้อมาให้แล้วยังมาบอกกับเราว่า แก ๆ ดีใจมั้ยนมมันเพิ่มปริมาณด้วยนะ แกจะได้อิ่ม ๆ ไง เราก็ไม่ค่อยรู้เรื่องสักเท่าไรหรอกค่ะ

และวันนั้นพ่อแม่ไม่เข้ามาบ้าน เพราะต้องไปหาเงินส่วนแม่ก็ต้องดูแลคนแก่ มีพี่ชายเรานี่แหละที่ดูแลเราอยู่ข้าง ๆ เราตลอด หลังจากเหตุการณ์หลาย ๆ อย่างเกิดขึ้น ในช่วงค่ำ พ่อจะยังไม่กลับอย่างที่บอก และคุณแม่ก็กลับบ้างไม่กลับบ้าง จากที่เรากลับจากโรงเรียนมากับพี่ชาย มันก็เริ่มติดเพื่อน เริ่มเป็นหนุ่มแล้ว ไปเตะบอลกับเพื่อนหลังเลิกเรียน ส่วนเราก็เลยต้องกลับบ้านคนเดียว

อยู่กับผี
ภาพประกอบบทความเท่านั้น

วันหนึ่งเรากลับมาจากโรงเรียน

ในเวลาประมาณ 5 โมงเย็นเราทำการเปิดประตูเหล็กรูดขึ้นแล้วจะมีประตูกระจกข้างในอีกชั้นหนึ่ง พอเราเปิดเข้าไป ลองจินตนาการภาพดูนะว่า บ้านของเราเป็นปูนแล้วมีการตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ด้วยไม้อย่างอัดแน่น ตอนนั้นในใจก็แอบหลอนอยู่ เพราะมันทำให้บ้านดูมืดมาก แล้วบ้านของเราเสียงก็กล้องมาก ๆ เพราะตึกตั้งสามชั้น สองคูหาอย่างที่บอก ครั้งแรกที่พี่ชายปล่อยให้เรากลับบ้านเองคนเดียว เราเปิดประเข้ามาในบ้าน และเสียงแรกที่ได้ยินนั่นก็คือ เสียงของตกที่ชั้นสาม เสียงดังมากจนเราตกใจสุด ๆ แล้วเสียงแบบนี้ ก็เกิดขึ้นบ่อยมาก

เวลาเราอยู่คนเดียว หลังจากนั้นเราก็ต้องกลับบ้านคนเดียวเป็นแบบนี้ จนเรานั้นขึ้นประถมปลาย บางวันเรากลับมา ซึ่งก็ไม่กล้าขึ้นข้างบน ห้องนอนของเราอยู่ชั้นสอง นอนกับคุณพ่อและพี่ชาย เป็นห้องนอนใหญ่นอนรวมกัน มีห้องน้ำส่วนตัว และส่วนชั้นสาม แม่ได้สร้างเป็นห้องเรากับพี่ชาย ซึ่งนอนคนละห้องและมีห้องพระอยู่ตรงกลาง แต่ว่าไม่มีใครขึ้นไปนอน โดยมีแต่ขึ้นไปไหว้พระ บางครั้งพ่อเครียดในเรื่องงานอยากขึ้นไปไหว้พระพ่อยังไม่กล้าขึ้นไปเลย

ซึ่งปกติแล้วพ่อก็ไม่กลัวนะแม่ก็เช่นกัน และหลังจากที่ขึ้นไปไหว้พระแล้วลงมา จะมาบ่นว่าเวลาเดินอยู่บนชั้นสามนั้น เหมือนกับมีคนเดินตามฝีเท้าเราจนเป็นเหตุการณ์ที่หลายคนเจอและต้องวิ่งลงมาทีละสองสามขั้นบันไดกันเลยทีเดียว ส่วนญาติพี่น้องที่เคยมาเยี่ยมแล้ว มานอนพักไม่ต้องพูดถึง เขาบอกว่าโดนผีอำกันแบบทุกคน ซึ่งเราก็ งงมากทำไมเขาถึงกลัวกัน บางทีเราไปเที่ยวที่ต่างจังหวัดกับทางครอบครัวจ้างให้แม่บ้านมานอน แกก็ปฏิเสธไม่อยากนอน จนแม่ต้องขอร้องให้เฝ้าบ้านจะเพิ่มเงินให้ แกถึงได้ยอม แต่แกก็ไม่อยากนอนอยู่ดีไม่รู้ทำไม และพูดเรื่องความฝันเรื่องที่ฝันบ่อย ๆ นั่นก็คือ ฝันเห็นผู้หญิงคนหนึ่ง ในฝันเห็นไม่ค่อยชัดตลอดเลย แต่รู้ว่าเป็นผู้หญิงใส่ชุดขาว เราก็ฝันถึงผู้หญิงคนนี้บ่อยสุด ๆ บอกเลยว่าแทบจะทุกคืน เคยฝันบ่อยสุด 7-8 วันติดต่อกันก็มี ฝันไปถึงเหตุการณ์ต่าง ๆ แต่ทุก ๆ เหตุการณ์จะเกิดขึ้นที่ชั้นสามของบ้านเราเอง

ในครั้งแรกฝันว่า ขึ้นไปที่ชั้นสามกำลังจะเข้าไปห้องของเราเอง แต่ว่าจู่ ๆ ก็มีพายุหมุนเล็ก ๆ เข้ามาขวางที่หน้าเราให้ตกใจเหมือนหลอกเรา และฝันต่อมาก็ฝันว่าขึ้นไปชั้นสามอีกตามเคย โดยพอเปิดเข้าไปที่ห้องน้ำห้องไหนก็ออกมาที่ห้องเดิมเปิดไปห้องไหน ๆ ก็ออกมาที่ห้องเดิม ๆ แบบซ้ำ ๆ จนเราร้องไห้ในฝันเหมือนแกล้งเราและบรรยากาศก็มืดในทุกครั้งเลย

และฝันต่อมาก็ฝันว่าจะมีคนไล่ฆ่าเรากับพี่ชาย โดยในฝันนั้นจะมีผู้หญิงคนเดิมอยู่ตลอด และฝันที่พีคที่สุดเราฝันว่า ในตอนกลางวัน เราได้ขึ้นไปที่บนชั้นสามแล้วเราเห็นเปลเด็กที่เป็นเหล็กสี่เหลี่ยมทั่วไปสีฟ้าและมีของเล่นห้อยอยู่ด้วย และเปลหลังนี้ก็ตั้งอยู่บนห้องโถงชั้นสาม และเราก็ไปชะเง้อหน้าดูเด็กในเปล แต่ว่ายังไม่ทันได้เห็นเด็กก็มีส้นเท้ายักถีบเราล่วงจากชั้นสามลงมาชั้นหนึ่งในฝันเรากลัวมากแล้วจู่ ๆ ในฝันก็กลายเป็นกลางคืนสะงั้นเลย

ช่วงนั้นเราติดเกมเดอะซิม 

โดยเราโกหกพ่อว่าป่วยจะได้เลยเกมอยู่บ้าน มันเป็นช่วงกลางวันเราจึงกล้าอยู่บ้าน คุณพ่อออกไปทำงานเราก็ตื่นมาเล่นเกมแต่โต๊ะคอมตั้งอยู่นอกห้องนอน โดยจะหันหลังให้บันไดบ้าน และด้านหลังเราจะเป็นโถงชั้นสองโล่ง ๆ เล่นเกมไปเพลิน ๆ ปกติ แต่ว่าก็ต้องเหลียวหลังตลอด เคยเป็นมั้ยคะ เวลามีคนจ้องมองเราจากข้างหลังเราจะรู้สึกตัวได้ เราก็เล่นไปแล้วก็หันหลังไปตลอดเวลา และตอนกลางคืนคุณพ่อจะละเมอร้องโวยวายทุกคืน เหมือนโดนผีอำ ทั้งทำการถีบ และทั้งต่อย ซึ่งเป็นบ่อยจนแม่ต้องบอกเสมอว่าให้ปลุกพ่อด้วยนะปลุกให้ตื่นเลย เดี๋ยวพ่อจะขาดใจสะก่อน เราถามพ่อว่าฝันอะไรบ่อย ๆ พ่อก็เล่าให้ฟังว่า ในฝันมีผู้หญิงชวนไปอยู่ด้วยแต่ในฝันก็รู้ว่าเป็นผีแต่ว่าก็พยายามจะวิ่งหนี แต่ก็หนีไม่พ้นในบางครั้ง และในบางครั้งเห็นคนตายเต็มไปหมด เดินไปทางไหนก็มีแต่คนฆ่าตัวตาย โดดตึก คนผูกคอตาย ฆ่ากันตาย

จนในฝันต้องวิ่งหนี แต่หนีก็หนีไม่พ้น และในวันหนึ่งพ่อเลยฝันเหมือนเดิม โวยวายเตะต่อยเหมือนเดิม ซึ่งเราก็ทำการปลุกพ่อ พ่อก็ลุกเฮือกฮากขึ้นมาพูดว่าโตไปทำอะไรอยู่ตรงนั้น โตคือพี่ชายของเราเอง เราก็อุทานอะไรนะพ่อ โตไปทำอะไรอยู่ตรงนั้นทำไมไม่นอน แบบเราก็มองตามไปเหมือนที่พ่อมอง เราเห็นว่าเป็นผู้หญิงผมสั้นประบ่ายืนอยู่ที่ตู้เสื้อผ้า เพราะแสงจากละเบียงหลังบ้านที่เปิดไว้ในทุกคืน เธอยืนอยู่ปลายเตียงเรารีบหันหลังคลุมโปงเลย เราได้แต่บอกตัวเองว่าตาฝาดไม่เห็นอะไรทั้งสิ้น แล้วก็เผลอหลับไปบางวันทะเลาะกับพี่ล็อกไม่ให้มันเข้ามาในห้องแล้วจู่ ๆ ขวดน้ำที่ตั้งไว้ก็ล่นลงมาน้ำนองเต็มพื้นเลย เราจึงรีบวิ่งไปเปิดประตูให้พี่ชายบ้านเราก็ใหม่นะแต่บรรยากาศวังเวงไปหมดเลย 

อยู่กับผี
ภาพประกอบบทความเท่านั้น

มาถึงวาละที่พ่อกับแม่เริ่มตั้งตัวได้ 

เราอาศัยอยู่บ้านหลังนี้มานานถึง 8 ปี คุณแม่ก็ได้ประกาศขายบ้านหลังนี้มาสักพักหนึ่งแล้ว แล้วอยู่ดี ๆ ก็มีคนหนึ่งมาขอซื้อเขาก็มาดูบ้านเราเขาเป็นคนรวยอายุประมาณ 35 ปี ซึ่งเขาบอกว่าเขาเป็นหมอดูฮวงจุ้ย ไม่รู้ทำไมเหมือนกันแต่ผมต้องช่วยคุณ อีกทั้งผมต้องซื้อบ้านหลังนี้เขาเดินดูไปมาแล้วบอกเราว่ามันแปลก ๆ มันมีอะไรสักอย่างแม่ดีใจมาก ตอนแรกแม่จะขาย 5 ล้านแต่ด้วยความที่ดีใจที่เขามาช่วยซื้อเลยลดให้ 4.5 ล้าน

เขาไม่ต่อเราสักแดงเดียว ทำการตกลงทำเรื่องโอนกันเรียบร้อย ในวันที่ขายบ้านได้แม่ดีใจมากซื้อของมาทำสุกี้กินฉลองที่บ้านหลังนี้ แม่ชอบดื่มไวน์มาก ๆ แม่ดื่มแล้วก็เลยอยากระบาย ความในใจกับลูก ๆ ขณะที่เราเองกำลังโซ้ยสุกี้แบบไม่หายใจนั้น พี่ก็นั่งเล่นเกมอยู่ ส่วนคุณพ่ออิ่มแล้วก็ขึ้นไปนอน แม่ซึ่งอยู่ในอาการเมานิดหน่อย พูดออกมาว่าดีใจจังเลยในที่สุดเราก็ขายบ้านหลังนี้ได้

ทำไมเหรอ แม่ก็ว่าดีใจจะได้เอาเงินไปซื้อที่อยู่ใหม่ ใครจะไปอยู่ได้บ้านที่มีคนตายแบบนี้กัน เราก็ตกใจไม่จริงใช่มั้ยแม่!! ก็เฮียบ้านด้านหลังเขาเป็นญาติกับเจ้าของตึก เฮียแกบอกว่าดีแล้วที่ขายบ้านได้ เราก็เลยทราบเรื่องกันว่า เขาคนนั้นเป็นเด็กผู้หญิงที่มักมาเล่นยากับแฟนหนุ่มบ่อย ๆ ที่ตึกแห่งนี้ และวันหนึ่งแฟนหนุ่มก็หลอนจากยาเสพติดแล้วฆ่าผู้หญิงคนนั้นจนตายและผู้หญิงคนนี้มีท้องอ่อน ๆ น่าจะราว ๆ 2 เดือนเศษ แต่ก็ถูกฆ่าเสียก่อนนั่นเอง

แล้วศพนั้นก็ถูกลากไปทิ้งที่ป่าหลังบ้าน ซึ่งตอนเด็ก ๆ เรากับพี่ ๆ นั้นชอบไปเล่นแถวนั้นบ่อย ๆ  เราก็สติแตกมาก เพราะว่าเราต้องอยู่บ้านหลังนี้อีกหลายอาทิตย์เลย แต่แม่อยู่บ้านอีกหลัง และตอนนี้เราย้ายออกจากบ้านหลังนั้นแล้ว ในตอนนี้เฮียคนที่ซื้อบ้านเขาก็โดนเขามาช่วยเราก็จริง แต่เขาก็มีธุรกิจหลายอย่างมีฟาร์มวัวเนื้อ ซึ่งวัวของเฮียก็ล้มตายไปสิบกว่าตัวเลย เฮียก็โทรมาเล่าให้แม่ฟังนั่นเอง…

ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก : เรื่องสยองขวัญอยู่กับผี