ผีเปรต

ผีเปรต หลอนขอส่วนบุญ

เรื่องเล่าผี แบบเจาะลึกกับตำนานในเรื่องของ ผีเปรต ซึ่งเป็นสัมภเวสีที่ต้องชดใช้กรรมบนโลกมนุษย์และแดนมิคสัญญี จะหลอนขนาดไหนมารับชมกันได้เลย

ผีเปรต ที่ไม่ว่าใครที่ได้พบเจอ รับรองว่ามีหลอนกันอย่างแน่นอน

เรื่องลี้ลับ ผีเปรต เป็นผีจำพวกหนึ่ง ซึ่งเคยทำบาปสร้างกรรมเอาไว้ในสมัยเมื่อยังมีชีวิตอยู่ครั้น ตายลงแล้วก็ต้องมารับผลกรรมตามที่ได้สร้างไว้ทำให้ต้องมีความเป็นอยู่อย่างอดอยาก ผอมโซมาก ชอบส่งเสียงร้องหรือคอยปรากฏตัวให้ชาวบ้านเห็นเพื่อขอส่วนบุญให้ช่วยทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้บ้าง เพราะอดอยากหิวโหยซะเหลือเกิน

ผีเปรต
รูปภาพประกอบเรื่อง

โดยทั่วไปคนส่วนใหญ่จะเข้าใจว่า เปรตเป็นผีชนิดหนึ่งที่มีลำตัวสูง บ้างว่าสูงเท่าลำตาล สูงเท่าต้นตาลหรือยอดตาล โดยบ้างก็ว่ากันว่าสูงเท่าเสาชิงช้าวัดสุทัศน์ บ้างว่าสูงเท่ายอดธงเลย หากเป็นสมัยนี้คงต้องเปรียบเทียบให้เห็นภาพกันใหม่ว่าสูงยิ่งกว่าตึกห้าชั้น หรือสูงเท่ากับคอนโดมิเนียมริมน้ำอะไรทำนองนี้ ซึ่งสรุปใจความก็คือ เปรตเป็นผีที่มีรูปร่างสูงมาก จนมีคำพูดติดปากล้อใครที่ตัวโย่ง ๆ ว่าสูงยังกับเปรต แต่เนื่องจากกรรมหรือการกระทำในทางที่ชั่วร้ายนั้นจะมีแตกต่างกันออกไป เมื่อตายแล้วจึงได้เกิดเป็นเปรตชนิดต่าง ๆ กัน อาทิเช่น คนที่ชอบดุด่าตบตีพ่อแม่ผู้มีพระคุณจะต้องไปเกิดเป็นเปรตจำพวกที่มีปากเท่ารูเข็ม มือโตเท่าใบพายหรือใบตาล อดอยากและจะหิวโหยอยู่เป็นนิตย์ ลองคิดกันดูว่าหากใครเกิดมามีปากเท่ารูเข็ม เวลาจะกินข้าวต้องเอายัดเข้าปากแบบไปทีละเมล็ดมันจะทรมาทรกรรมขนาดไหน เป็นคำขู่หรือเตือนสติของคนโบราณให้ลูกหลานนั้นได้มีความกตัญญูให้การเลี้ยงดูพ่อแม่ยามแก่ชรา และไม่ทำร้ายทั้งร่างกาย และจิตใจใครขืนเป็นอย่างที่ว่ารวมทั้งพวกเกกมะเหรกเกเร ชาวบ้านก็จะพากันด่าประณามว่า ไอ้เปรต สำหรับคนที่ชอบฆ่าเป็ดฆ่าไก่ ตีไก่ เชือดวัว เชือดหมู อยู่เป็นอาจิณ หากว่าเวลาตายไปแล้วอาจต้องไปเกิดเป็นเปรตประเภท ตัวเป็นคนหัวเป็นไก่ หรือว่าหัวเป็นหมูก็ตามแต่ผลกรรม ใครทำกรรมเอาไว้อย่างไรก็จะได้ผลกรรมอันนั้นตอบสนอง เพราะฉะนั้นเปรตอาจมีอยู่หลายชนิดหลายจำพวก ใครที่อยากเห็นก็ลองดูรูปปั้นเปรตชนิดต่าง ๆ ได้ที่วัดไผ่โรงวัว จังหวัดสุพรรณบุรี

เปรตมีที่อยู่อาศัยแตกต่างกันไปตามประเภทและเผ่าพันธุ์รวมทั้งคติความเชื่อที่บอกต่อหรือสืบทอดกันมา ซึ่งบางตำราว่าอาศัยอยู่ตามวัดคอยปรากฏตัวหลอกหลอนหรือแสดงร่างให้เห็นเพื่อขอส่วนบุญ บ้างก็ว่าอยู่ตามท้องทุ่งตามทางเปลี่ยวใครไปเที่ยวดึก ๆ กลับบ้านคนเดียวเดินผ่านศาลาวัด หรือตามทางแยก ก็อาจเจอเปรตเดินตามหลังมาส่งถึงบ้าน หรือเดินเป็นเพื่อนมาตลอดทาง ซึ่งหากเจอเปรตก็ไม่ต้องตกอกตกใจอะไรเลยวิ่งลูกเดียว หรือหากว่ามีเปรตและผีชนิดใดก็ตามมาขวางหน้าเราอยู่ โดยโบราณว่าอย่าวิ่งหันหลังกลับ เพราะจะโดนมันดักหน้า ให้วิ่งไปข้างหน้าหรือทำการวิ่งฝ่าไปเลย แต่ถ้าจะให้ดีกลางค่ำกลางคืน นอนอยู่บ้านสบายที่สุด…ว่ามั้ย!!

วัดไผ่โรงวัว จังหวัดสุพรรณบุรี
วัดไผ่โรงวัว จังหวัดสุพรรณบุรี
  • เปรตกินอะไรเป็นอาหาร ?

เปรตกินอะไรเป็นอาหารคงไม่ต้องบอก เพราะไม่รู้เหมือนกันนอกจากมีความเชื่อกันว่า เวลาทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้เหล่าญาติที่ล่วงลับไปแล้ว พวกเปรตก็จะมารับ ส่วนบุญจากลูกหลานได้กินอิ่มหมีพีมันไปมื้อหนึ่งคราวหนึ่ง หรือไม่อย่างนั้นก็อดอยากหิวโหย นอกจากพวกอาหารคาวหวานแล้ว บางทีทางลูกหลานจะถวายเสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่มแก่พระสงฆ์ด้วย เพื่อให้ผีญาติ ๆ ของตนไม่ต้องโป๊หรือเปลือยกายล่อนจ้อน ใครที่จะศรัทธาแก่กล้าถึงขนาดถวาย ซาวด์อะเบาท์ หรือโทรทัศน์ ซีดี วิดีโอ ก็ตามถนัดไม่ผิดกติกาอันใด หากว่าไม่มีญาติหรือลูกหลานคอยทำอุทิศส่วนกุศลไปให้พวกเปรตเหล่านี้จะหิวโหยคอยร้องโหยหวน เสียงร้องของเปรตจะไม่มีใครยืนยันได้ว่าไพเราะเพราะพริ้งขนาดไหน นอกจากในบางตำราบอกไว้ว่า มันส่งเสียงร้องดังกรี๊ด ๆ เป็นเสียงหวิวหวีดฟังแล้วชวนวังเวง วิเวกวิโหวเหว คนละอย่างกับที่พวกวัยรุ่นกรี๊ดกร๊าดเวลาเจอดารายอดนิยมหรือตอนดูคอนเสิร์ตหลังหมอชิต ซึ่งว่ากันว่าที่เสียงมันดังกรี๊ด ๆ ก็เพราะเกิดจากแรงดันของลมจากท้องผ่านช่องปากที่เล็กเท่ารูเข็ม เลยกลายเป็นเสียงอย่างที่บอก แบบนี้พวกเปรตที่มีหัวเป็นไก่ก็อาจจะร้องเสียงแบบ เอก-อี้-เอ้ก-เอ้ก ก็ได้ละมั้ง ถ้าหากว่าใครทำบุญหากจะอุทิศก็ขอให้กล่าวหรือออกนามพวกผีไม่มีญาติ หรือบรรดาผี ๆ ทั้งหลายรวมทั้งคุณผีเปรตด้วย เพื่อที่จะได้ไม่หิวโหยร่างกายผอมโซจนน่าสงสาร

เปรตน่าจะเหมือนผีธรรมดาสามัญทั่วไปคือกลัวพระ กลัวเครื่องรางของขลัง ลองเจอเข้าเป็นเผ่นกระเจิง เพราะผีกับพระนั้นไม่ถูกกัน เหมือนงูกบเชือกกล้วยยังไงยังงั้นเลย แต่สำหรับผีเปรตมีท่านผู้รู้แนะนำว่าหากใครเจอระหว่างทางหรือเจอที่ไหนก็แล้วแต่ให้รีบบอกว่า ไปที่ชอบ ๆ หรือไปผุดไปเกิดซะเถอะ แล้วจะอุทิศส่วนกุศลไปให้เท่านี้ผีเปรต และผีทั้งหลาย ก็จะเลิกตอแย หายตัวแว๊บไปเลยทีเดียว แล้วก็อย่าลืมทำตามสัญญา เพราะไม่ว่าอย่างนั้นอาจจะเจออีกเป็นรอบที่สอง เพราะคุณผีเขาจะมาทวงส่วนกุศลนั่นแหละ

เปรตกินอะไรเป็นอาหาร
รูปภาพประกอบเรื่อง
  •  ผีเปรต หรือชาวอีสานเรียกว่า ผีเผด 

เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ เอ๊ย..ไม่ใช่ เกิดหรือถือกำเนิดขึ้นตามผลกรรมที่เคยได้กระทำเอาไว้ สมัยเมื่อยังมีชีวิตอยู่ ตำราโบราณได้กล่าวว่า เวลาที่เปรตตัวเดิมจะพ้นจากกรรมได้ไปผุดไปเกิดจะมีเปรตตัวใหม่ มารับตำแหน่งแทนดังมีเค้ามาจากนิทานพระมาลัยเรื่องหนึ่ง ดังนี้

ยังมีมานพหนึ่งคนหนึ่งชื่อว่า มิตตวินทุ อยากจะไปเที่ยวทะเลกับทางพ่อค้าสำเภาจึงเคี่ยวเข็ญเอาเงินทองจากมารดา ซึ่งเป็นแม่ม่ายใจบุญด้วยความเป็นห่วงลูกชายมารดาก็ขัดขวาง มิตตวินทุปกติเป็นคนเกกมะเหรกเกเรอยู่แล้ว จึงทำให้โกรธจนลืมตัว และได้ทำการถีบแม่จนล้มแล้วหนีไปเที่ยวทะเลจนได้ แต่ว่าผลกรรมตามทันทำให้เรือแตก มิตตวินทุว่ายน้ำไปขึ้นฝั่งที่เกาะแห่งหนึ่งอันเป็นที่อยู่ของพวกเปรต แต่ว่าชายหนุ่มก็กลับมองเห็นกงจักรที่หมุนคว้างผ่าศีรษะของพวกเปรตเหล่านั้นเป็นดอกบัว ซึ่งประดิษฐ์เป็นมาลาสวมใส่ไว้อย่างสวยงาม เห็นเลือดที่ไหลย้อยมาตามตัวเป็นสังวาลสายสร้อย เห็นพวกเปรตที่กำลังร้องครวญครางยกมือยกไม้ชักดิ้นชักงอด้วยความเจ็บปวดเป็นการร้องรำทำเพลงอย่างมีความสุข โดยมิตตวินทุจึงได้เอ่ยปากขอพวกเปรตรู้ว่ามีผู้มารับกรรมหรือรับช่วงต่อ ซึ่งแสดงว่าพวกตนนั้นได้พ้นจากกรรมที่เคยกระทำเอาไว้แล้วก็ดีใจ รีบยกให้อย่างไม่ลังเลกันเลย จึงเป็นที่มาของคำพังเพยไทยที่ว่า “เห็นกงจักรเป็นดอกบัว เห็นสองโพดำเป็นสเปโต” อะไรทำนองนี้แหละ

  • ในพจนานุกรมทุกฉบับ 

กล่าวถึงเปรตพอรวมความได้ว่าเป็นสัตว์พวกหนึ่ง เกิดในอบายภูมิ ซึ่งแปลว่า แดนแห่งความทุกข์เป็นผีเลวจำพวกหนึ่ง มีหลายชนิด มีรูปร่างสูงโย่งยังกับลำตาล ผมยาว คอยาว ผอมโซ เพราะอดอยาก ปากเท่ารูเข็ม สงสัยจะหมายถึงเข็มเย็บผ้ามากกว่าเข็มเย็บกระสอบ มีมือโตเท่าใบตาล กินเลือด และหนองเป็นอาหาร ร้องเสียงดังกรี๊ด ๆ ไม่ใช่กรี๊ดกร๊าด ส่วนในหนังสือของไตรภูมิพระร่วง พรรณนาเกี่ยวกับเปรตเอาไว้ว่า บางจำพวกอยู่ในมหาสมุทร บนยอดเขา ตามไหล่เขา แต่บางจำพวกก็อยู่ในปราสาท ซึ่งมีช้างม้าเป็นข้าทาส บางจำพวกเวลาข้างแรม เป็นเปรต เวลาข้างขึ้นเป็นเทวดา ฯลฯ อันนี้แล้วแต่บุญกรรมที่ได้กระทำเอาไว้นั่นเอง

ผีเปรต

ในส่วนของทางภาคใต้


ทางภาคใต้นั้น มีผีอยู่ชนิดหนึ่ง เรียกว่า ‘ผีหลังกลวง” เป็นผีที่มีรูปร่างลักษณะอย่างคน แต่ข้างหลังเป็นรูกลวง คือสามารถมองเห็นเครื่องในประเภทตับไตไส้พุงได้หมด มีหนอนยั๊วเยี๊ย เวลาใครก่อไฟผิงอยู่กลางแจ้ง ผีหลังกลวงจะทำทีเข้ามาขออาศัยด้วย แล้วคอยหลอกหลอนโดยการแสดงให้เห็นอวัยวะภายในจากหลังที่กลวง บางทีมันแกล้งวานเด็ก ๆ เกาหลังให้แล้วหลอกให้เห็นอวัยวะภายใน หรือหลังที่กลวงซึ่งมีกิ๊งกือเต็มไปหมดผีพวกนี้ไม่ทำร้ายใคร แต่จะหลอกหลอนให้ตกใจกลัว บอกเลยว่าหลอนสุด ๆ

ที่มา ข้อมูล เครดิต รูปภาพ : ประวัติตำนานผีไทย