ความเชื่อพื้นบ้านทางภาคเหนือ ตำนานผีโพง ที่ว่ากันว่าเกิดขึ้นมาจากไสยศาสตร์ คนที่เล่นของแต่ผิดครู ควบคุมวิชาของตัวเองไม่ได้ จนตัวเองต้องกลายเป็นผีโพงในที่สุด
ตำนานผีโพง เล่นของแต่คุมวิชาตัวเองไม่ได้
ผีโพงนั้น เป็นตำนานผีตามความเชื่อพื้นบ้านทางภาคเหนือ ตำนานผีโพง เรื่องผี นั้นเกิดจากคนที่เล่นไสยศาสตร์ แต่ไม่สามารถควบคุมวิชาตัวเองได้ หรือคนที่ปลูกว่านชนิดหนึ่งที่มีชื่อว่า ว่านผีโพง มีสีขาว รสฉุน ร้อน เมื่อเริ่มแก่ จะมีธาตุปรอทลงดิน ทำให้เกิดแสงสว่างแบบแมงดาเรือง ว่านผีโพงนั้น เป็นสมุนไพรที่ใช้เข้ายา จะปลุกเสกด้วยวิชาอาคม ของผู้มากวิชา ที่ได้ร่ำเรียนมา
ทำให้ว่านผีโพงมีความขลัง และความศักดิ์สิทธิ์ มีฤทธิ์ในตัวว่าน ผู้ใดที่ได้รับว่านนี้ไป ไม่ว่าจะนำไปกิน หรืออาบด้วยพิธีกรรม จะทำให้มีความเหนือมนุษย์ธรรมดา ๆ ฟันแทงไม่เข้า มหาเสน่ห์ และอีกมากมาย
อย่างที่ทราบ ๆ กันว่า ผู้ที่ร่ำเรียนคาถาอาคม จะต้องมีข้อห้ามที่ครูบาอาจารย์ได้กล่าวเอาไว้ ถ่ายทอดต่อ ๆ กันมารุ่นสู่รุ่น
ข้อห้ามอะไรที่รักษาไม่ได้ ปฏิบัติตนให้อยู่ในข้อห้ามไม่ได้ ทางเหนือจะเรียกว่า คะลำ คือการทำผิดข้อห้ามที่ได้มีการกำหนดเอาไว้ ผู้ที่ได้รับมวลสารของว่าน แล้วไม่สามารถควบคุมได้ เผลอ ประมาท หลงตน ทำผิดกฎอย่างร้ายแรง จิตใจจะตกอยู่ภายใต้การควบคุม และกลายเป็นผีโพงในที่สุด
ผีโพงตอนกลางวันจะดูเหมือนคนธรรมดา ๆ ทั่วไป แต่พอกลางคืน ก็จะกลายร่างเป็นผีโพง จุดเด่นของผีโพง คือ แสงสว่าง มีดวงไฟสีแดงที่รูจมูก ออกหากินของที่สกปรก คาว เช่น กบ เขียด ศพ รกของทารกเกิดใหม่ ผีโพงมักจะออกไปหากินในวันที่ฝนตกพรำ ๆ มองไกล ๆ จะเห็นเป็นดวงไฟลอยมา ๆ ในคืนที่มืดสลัว เมื่ออากาศเย็น เวลาที่ออกหาเหยื่อ ลูกไฟตรงจมูกจะหยดลงมา คล้ายกับน้ำมูก ที่หยดเป็นลูกไฟ คล้าย ๆ กับผีกระสือ กระหัง ผีปอป ถ้าลองเดินตามผีโพงไป จะเจอกับกบ เขียด นอนตายกันเป็นจำนวนมาก
ปกติแล้วนั้น ผีโพงจะไม่ทำร้ายมนุษย์ แต่ถ้าเกิดถูกคุกคาม หรือโจมตี ก็จะร้ายได้เหมือนกัน หากมีใครไปทำอะไรให้ผีโพงไม่พอใจขึ้นมา ผีโพงจะใช้ก้านกล้วย ตัดใบออกจนหมด หรือคานคาบของแม่หม้าย พุ่งข้ามหลังคาบ้าน ครอบครัวนั้นก็จะต้องพบเจอกับภัยพิบัติต่าง ๆ มากมาย
ผีโพงสามารถมีการถ่ายทอดได้ โดยการ พ่นน้ำลาย ใส่หน้า หรือกินน้ำลายของผีโพง ผีโพงนั้นมักจะเป็นผู้ชาย เวลาที่ออกไปหากิน จะวางหมอนข้าง แล้วใช้ผ้าห่มคลุม เพื่อที่ลูกเมียจะได้ไม่สงสัย
หรือผีโพงบางตัว เมื่อออกไปหากิน มักจะสะพายดาบไปด้วย หากว่าโดนจับได้ หรือมีคนพบเห็น ก็จะเข้าไปทำร้าย และถ้าคนคนนั้น ไม่ยอมที่จะเก็บความลับ ผีโพงจะเสกใบไม้เป็นทอง เพื่อปิดปาก แต่วันใดวันหนึ่งโดนเปิดเผย ผีโพงก็จะแค้น และกลับมาทำร้ายจนตาย อาจจะเอาก้านกล้วยพุ่งข้ามบ้าน ทำให้คนบ้านนั้นต้องตาย หรือเอาก้านกล้วยพุ่งใส่อกจนเสียชีวิตกันเลยเดียว
ที่ ต.พลับพลา อ.โชคชัย จ.นครราชสีมา มีหมู่บ้านที่ชื่อว่า บ้านผีหลอก ที่อยู่ห่างจากตัวอำเภอโชคชัยประมาณ 5 กิโลเมตร ส่วนใหญ่จะทำการปลูกมันสำปะหลัง และทำนาข้าว เหตุที่ได้ชื่อนี้มา เพราะว่าจากเรื่องเล่า คำร่ำลือ ที่มีมาตั้งแต่สมัยอดีตร้อยกว่าปีมาแล้ว อดีตสถานที่นี้เป็นหนองน้ำ มีพื้นที่ประมาณ 100 ไร่ ติดกับทางเกวียน เวลาค่ำ ๆ ผีโพงจะมาจับกบ จับเขียดกินเป็นอาหารบ่อย ๆ ทำให้ไม่มีใครกล้าที่ผ่านในตอนกลางคืน แต่ปัจจุบันเรื่องราวก็เริ่มจางหายไป กลายเป็นแค่ตำนาน ตำนานหนึ่งไปแล้ว
นี้คือเรื่องราว ตำนานความเชื่อพื้นบ้านของทางภาคเนื้อ ผีโพง ไม่ได้เป็นผีที่ดุร้าย แต่อย่าเข้าไปยุ่ง หรือทำร้ายจะดีที่สุด เรื่องแบบนี้จะเชื่อ หรือไม่ ก็ต้องขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของแต่ละท่าน ไม่เชื่อ อย่าลบหลู่ดีที่สุด เรามีเรื่องราว ความเชื่อ ตำนาน เรื่องสยอง ประสบการณ์การเจอผีแบบนี้มาฝากทุก ๆ วัน ใครที่ชอบเรื่องราวหลอน ๆ ลี้ลับ ต้องไม่พลาดเด็ดขาดค่ะ
ขอบคุณรูปภาพจาก chiangmainews