เรื่องราวของผีดูดเลือด ตามความเชื่อของชาวไทย ตำนานผีกองกอย ที่จะมีความแตกต่างจากผีดูดเลือดที่คุณเคยรู้จักอย่างสิ้นเชิง ผีกองกอยเป็นอย่างไร เรามาดูกันเลยดีกว่าค่ะ
เปิดเรื่องราวผีดูดเลือดไทย ตำนานผีกองกอย
ใคร ๆ ก็คงต้องเคยเห็นผีดูดเลือดผ่านภาพยนตร์ หนังสือ การ์ตูนต่าง ๆ มาบ้าง คงจะมีภาพอยู่ในหัวว่า ผีดูดเลือดมีลักษณะอย่างไร ?? ซึ่งก็พอที่จะเทียบกับผีกองกอยได้บ้าง แต่กองกอยมีความแตกต่างจากผีดูดเลือดที่คุณรู้จักกัน คือ ผีกองกอยจะดูดเลือดที่บริเวณเท้า จึงทำให้มีลักษณะที่ต่างจากผีดูดเลือดอื่น ๆ สำหรับ ตำนานผีกองกอย เรื่องผี นั้นมีเรื่องราวที่เล่าขานสืบต่อกันมานานมาก เราจะพาคุณมาทำความรู้จักผีชนิดนี้ ว่ามีความเป็นมาอย่างไร มีความเชื่ออะไรเกี่ยวกับผีกองกอย ??
ลักษณะของผีกองกอย
ผีกองกอยเป็นผีป่า หรือผีไพรชิดหนึ่ง ลักษณะเป็นผีที่มีขาข้างเดียว ปากเป็นท่อคล้ายกับแมลงวัน เวลาจะเดินไปไหนต้องกระโดดไปกับขาข้างเดียว และจะส่งเสียงร้องว่า กองกอย ๆ ซึ่งอาจจะเป็นที่มาของชื่อผีกองกอย คนโบราณเชื่อว่า ผีกองกอยมีหน้าตาคล้ายลิง หรือค่าง มีชื่อเรียกอื่น ๆ ว่า ผีโป่ง ผีโป่งค่าง ผีโป่งขาม ผีโซเล่ ที่เอาไว้ใช้เรียกคนผ่าพวกหนึ่ง มีตัวตำ ผมหยิก อาศัยที่อยู่แหลมมาลายู
ความเชื่อเกี่ยวกับผีกองกอย
ตามความเชื่อของคนเฒ่าคนแก่เชื่อว่า ผีกองกอยเป็นค่างแก่ ที่หน้าตาหน้าเกลียด ไม่สามารถปีนต้นไม้ได้ บางกลุ่มก็เชื่อว่า เมื่อได้ดื่มเลือดค่าง จะทำให้มีร่างกายที่คงกระพัน และยังเชื่อว่า เจ้าย่องตอดในวรรณคดีไทย ในเรื่องพระอภัยมณี ผีกองกอยจะดูดเลือกจากหัวแม่เท้า คนที่ได้เข้าไปพักค้างแรมในป่า
วิธีการป้องกันไม่ให้ผีกองกอยดูดเลือด คือ การนอนไขว้ขา หรือเอาเท้าทั้งสองข้างชิดกัน และห้ามให้ปลายเท้าออกมาจากนอกเต๊นท์เด็ดขาด
ความเชื่อเรื่องผีกองกอย ภาคเหนือ
ในจังหวัดทางภาคเหนือจะมีผีอีกชนิดที่เรียกว่า ผีโป๊กกะโหล้ง เป็นผีโป่งชนิดหนึ่ง ลักษณะคล้ายกับผีกองกอย คือ ขาเดียว วิ่งเร็วราวกับลมผัด แต่จะไม่ดูดเลือดคนที่มาเดินป่า แต่ชอบบังตาคน พวกมันจะทำเสียงร้อง โป๊ก ๆๆ กะโหล้ง โป๊ก ๆ กะโหล้ง และยังมีนิสัยประจำตัว คือ ชอบเลียนเสียงคนที่ตะโกนเรียกกันในป่า เพื่อที่จะล่อให้คนเดินห่างกันออกไปเรื่อย ๆ จนพลัดหลงทางกัน คนเฒ่าคนแก่จึงบอกว่า เข้าป่าอย่าตะโกนเรียกกัน เพราะผีจะทำให้หลงป่า
ความเชื่อของชาวภูไท
ชาวภูไท อ.หนองสูง จ.มุกดาหาร มีความเชื่อว่า
ผีกองกอยเป็นผู้หญิงที่มีผมยาว ใบหน้าเรียวแหลม รูปร่างคล้ายลิง แต่จะมีขนาดเล็กกว่าลิง หรือลิงลม
และยังเชื่อว่ากองกอยเป็นผีที่มีครอบครัว อาศัยอยู่ตามโพรงถ้ำ หรือโพรงไม้ ออกหากินโดยการจับปลาตามลำห้วย และแม่น้ำ ชอบเดินถอยหลัง พูดอะไรที่ตรงข้ามกับความจริงเสมอ นอกจากนี้ผีกองกอย เป็นผีที่มีสมบัติมากมาย
ดังนั้นใครที่พบสมบัติอยู่กลางป่า โดยที่คุณไม่รู้ว่าใครเป็นเจ้าของ ห้ามเก็บมาเด็ดขาด !! เพราะมันอาจจะเป็นของผีกองกอย และผีกองกอยจะเอามาคืน ทำร้ายด้วยการ
ควักตับ ไต ไส้ พุง ออกมากินเป็นอาหาร ในเวลาหลับ มีลักษณะเดียวกับผีปอป คนที่ถูกควักอวัยวะออกไป จะเสียแบบหลับปกติ หรือที่เรียกว่าไหลตาย
ความเชื่อเรื่องผีกองกอยในมาดามกัสการ์
ที่เกาะมาดามกัสการ์ ในมหาสมุทรอินเดีย ใกล้ ๆ กับทวีปเอฟริกา มีความเชื่อเกี่ยวกับสัตว์ประหลาดที่อยู่ในป่า เรียกว่า คาลาโนโร่ มีความคล้ายกับผีกองกอย แต่มีความต่าง คือ ยืนสองขาเหมือนคน ขนเต็มตัว สีน้ำตาลแดง ไม่สวมใส่เสื้อผ้า มีความสูงแค่ 3 ฟุต จึงเชื่อว่า อาจจะเป็นผีกองกอย
หลวงปู่แหวน หลวงปู่ตื้อ เจอกับผีกองกอย
อดีตเมื่อหลวงปู่แหวน สุจิณโณ เจ้าอาวาสวัดดอยแม่ปั๋ง จ.เชียงใหม่ เดินธุดงค์เข้าไปในผ่าทึบ แขวงคำม่วน ประเทศลาว พร้อมกับหลวงปู่ตื้อ อจลธมโม เวลากลางคืนได้เจอกับ
ฝูงผีกองกอย ที่มีอายุประมาณ 13 – 14 ผี รูปร่างผอม ๆ แต่มีพุงป่อง ผิวคล้ำ ผมยุ่งรุงรัง จมูกบี้แบน มีอาวุธคล้าย ๆ กับหน้าไม้ หรือธนูเล็ก ๆ ส่งเสียงเรียกร้องก๋อย ๆ
พวกมันพยายามเข้ามาทำร้ายท่านทั้งสอง แต่ด้วยอภิญญาฌาณ จึงไม่สามารถทำร้ายได้ เมื่อมาถึงรุ่งเช้า ผีกองกอยก็ยอมแพ้ และมาขอขมาท่าน รวมทั้งได้นิมนต์ท่านทั้งสอง ไปอยู่ที่ของตัวเอง เมื่อหลวงปู่แหวน และหลวงปู่ตื้อพบว่า แท้จริงแล้วกองกอยกลุ่มนี้ เป็นคนเผ่าข่าระแด มีพฤติกรรมล่า และฆ่ามนุษย์ที่มาล่วงล้ำถิ่น แล้วเอาเนื้อมากิน
เรื่องราวของผีกองกอยมีอยู่จริง หรือไม่จริงก็ตาม บางคนคิดว่าคนอาจจะเป็นแค่เรื่องเล่า หรือความเชื่อของแต่ละบุคคล แต่ละท้องถิ่นท้องที่ ที่ได้มีการเล่าสืบต่อกันมา ทั้งนี้คุณก็สามารถศึกษาเพื่อเป็นความรู้เอาไว้ เพื่อที่เวลาคับขัน ต้องเจอกับผีกองกอย หรืออะไรก็ตามที่มีลักษณะคล้ายกับกองกอยในป่า จะได้สามารถเอาตัวรอดได้