คนหลอกผี

คนหลอกผี ถูกผีตามติด จนต้องหลอกผี ไปเชียงใหม่

เรื่องเล่าของ คนหลอกผี ที่เกิดจากเหตุการณ์จริง ถูกผีตามติดชีวิต จนต้องหลอกให้ผีขึ้นรถทัวร์ เพื่อไปลงที่เชียงใหม่เลยทีเดียว

เรื่องเล่าสุดสยอง คนหลอกผี ตามติดชีวิต จนขนหัวลุก !

ขนหัวลุกกับ คนหลอกผี เรื่องเล่าสุดสยอง ที่เกิดจากเหตุการณ์จริง เกิดกับคุณนัท คุณนัทได้เล่าว่า ชีวิตในวัยเด็กของเธอนั้น เริ่มต้นตั้งแต่ในตอนที่เธอถือกำเนิด แม้ว่าตัวเธอจะคลอดก่อนกำหนด ในระยะเวลาราวหนึ่งเดือน คุณนัทเลยต้องได้อยู่ในตู้อบ แต่หลังจากนั้น เธอก็เป็นเด็กที่เติบโตมีสุขภาพที่แข็งแรง 

จนกระทั่งวันหนึ่ง ในตอนที่เธออายุ 4 ขวบกว่า ๆ คุณนัทได้เล่าว่า ในตอนนั้น เธอไปเที่ยวต่างจังหวัดกับครอบครัว แต่กว่าจะถึงก็ใช้เวลาไปจนค่ำ พวกเขาเลยทำได้เพียง เดินเล่นในย่านตลาดแถวนั้น ในระหว่างที่สามคน โดยมีพ่อ แม่ ลูก ที่กำลังผิดหวังกับ การมาถึงตอนตลาดเริ่มวาย และพวกเขาก็เดินไปสะดุดตาเข้ากับ ศาลเจ้าจีนเล็ก ๆ ที่มีแสงสีแดงฉูดฉาดตกแต่ง ตรงสุดซอยของตลาด เลยตัดสินใจว่า จะไปขอพรไหว้พระกันก็แล้วกัน

ทุกอย่างก็ดำเนินไปอย่างปกติ จนกระทั่ง ในตอนที่พวกเขากำลังจะเดินออกจากศาลเจ้า คุณแม่ของคุณนัทก็สะดุ้งตกใจขึ้นมา เพราะจู่ ๆ ลูกสาวของเขา ก็เสียงดังขึ้นมา ท่ามกลางความเงียบ แล้วพูดขึ้นมาว่า

แม่ ๆ คุณป้าเอาไก่มาให้หนูด้วย ดูสิ…ไก่ตาแดงด้วย

คุณแม่ของคุณนัท ก็มองตามที่ลูกสาวได้ชี้มือไป แต่สิ่งที่เธออุ้มอยู่นั้น…ไม่ใช่ไก่เป็น ๆ แต่เป็นตุ๊กตา หรือรูปปั้นไก่สีทอง ที่คล้ายกับวัตถุมงคลตามศาลเจ้า แต่ว่าดวงตาของมันดูปูดโปนซ้ำยังแดงก่ำแวบวับจนเห็นชัด ภายในความมืด ที่ชวนให้ขนหัวลุก แม่ของคุณนัทก็ถามคุณนัทว่า ลูกไปเอามาจากตรงไหน เอาไปวางคืนไว้ที่เดิม อย่าเอาของเขามาเลย

คุณนัทในวัยสามขวบ ก็ทำตามอย่างว่านอนสอนง่าย เอาไก่ตัวนั้น กลับไปวางที่เดิม โดยที่ไม่โต้แย้งใด ๆ จากนั้นพวกเขาก็กลับที่พักกัน นี่คือเรื่องราวที่คุณนัทเองก็ลืมเลือนไปแล้ว แต่พึ่งได้มาฟังจากคุณแม่

ไม่ว่าเรื่องนี้ จะเป็นเรื่องบังเอิญ หรือไม่ก็ตาม หลังจากค่ำคืนนั้น คุณนัทก็มีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไป คือมีอาการชอบนอนละเมอ ในตอนกลางคืน ไม่ใช่อาการละเมอแบบธรรมดา อย่างการพูด งึมงำคนเดียว แต่มีอาการหนักถึงขั้น ที่คุณนัทเคยลุกเดินไปมากลางบ้านอยู่หลายครั้ง ครั้งที่หนักที่สุด คือละเมอเดินไปเข้าห้องน้ำ ที่ชั้นล่างทั้งที่ยังหลับตา แล้วจู่ ๆ ก็ล้มฟุบลงหัวแทบจุ่มลงในโถส้วม ยังดีที่เสียงดังพอที่พ่อแม่ของเธอจะได้ยิน เลยกลายมาเป็นความกังวลใจ ในความปลอดภัยของลูกขึ้นมา

คนหลอกผี กับการละเมอไปห้องน้ำคนเดียว

ทางครอบครัวเลยพาไปพบแพทย์ แต่ก็ได้ความว่า อาจจะเกิดจากตัวคุณนัทนอนไม่เพียงพอ นอนน้อย จนทำให้มีพฤติกรรมการนอนละเมอ คุณแม่คุณนัทก็เลยงง ลูกอยู่ในวัยเรียนเข้านอนตั้งแต่หัวค่ำ คืนหนึ่งคุณแม่คุณนัทเลยแอบส่องดูพฤติกรรม หลังจากที่ส่งคุณนัทเข้านอนไปแล้ว ในช่วงเกือบเที่ยงคืน ก็ได้ยินเสียงคนพูดเสียงดัง ออกมาจากห้องนอนของลูกสาว ทีแรกคุณแม่ก็เข้าใจว่า เป็นส่วนหนึ่งของอาการละเมอรึเปล่า แต่พอตั้งใจฟังดู มันเป็นเหมือนคุณนัท ตั้งใจพูดคุยกับใครบางคน โดยพูดว่า

คุณป้ามาหานัททุกวันแบบนี้ ไม่เบื่อบ้างเหรอ

หนู หนูยังไม่อยากไปค่ะ คุณป้า หนูยัง…ต้องเรียนหนังสือ และต้องไปโรงเรียน

คุณแม่ก็เริ่มตกใจ จึงเปิดประตูเข้าห้องไป พบว่าคุณนัทนั่งอยู่บนเตียง ในสภาพที่หลับตาสนิท แต่เหงื่อท่วมไปทั้งตัว ราวกับคนพึ่งตื่นจากฝันร้าย แต่คุณนัทจำเรื่องราว ในตอนที่เธอละเมอพูดไม่ได้เลย

หลังจากที่เธอไปหาหมออยู่พักหนึ่ง อาการก็ไม่ดีขึ้น แถมคุณนัทเองเริ่มมีปัญหา ในเรื่องของสุขภาพอื่น ๆ จากการพักผ่อนไม่เพียงพอ กลายเป็นคนป่วยง่าย สุดท้ายคุณแม่เลยพาคุณนัท ไปหาพระวัดดังแห่งหนึ่ง

พอลงจากรถยังไม่ทันได้เดินไปไหนไกล ก็ถูกพระที่กวาดลานวัดอยู่แถวนั้น ทักขึ้นมาว่า ไปทำสัญญาอะไรเอาไว้ล่ะหนู เขาถึงได้ตามติดเป็นเงาเลย คุณแม่ทำท่าจะพูดอะไร แต่ก็กลืนคำนั้นลงคอ เพราะท่านได้ชี้มือไปอีกทาง หลวงพ่อท่านรออยู่ รีบไปเถอะโยม

หลังจากที่ได้พบหลวงพ่อ ท่านก็พูดคล้ายกับที่หลวงพี่ที่ทักไป คือ มีวิญญาณตามติดตัวคุณนัท เนื่องจากเคยไปรับคำสัญญาไว้ คุณแม่ของคุณนัทก็งง ว่าลูกของตนนั้น ไม่เคยเข้าร่วมพิธีกรรมใด ๆ ทั้งสิ้น ถามไปถามมา ก็เลยรู้รูปร่าง ของวิญญาณที่ตามติดว่า เป็นอาม่าอายุราว ๆ 70 ปี ที่สวมชุดคล้ายกี่เพ้า จึงทำให้คุณแม่ของคุณนัท นึกขึ้นได้ในทันที ว่าเคยไปเที่ยวศาลเจ้าจีน แล้วลูกก็พูดจาแปลก ๆ คุณแม่ก็เลยเล่าเหตุการณ์ในวันนั้น ให้พระท่านฟัง

พระท่านกล่าวว่า แม้ว่าคุณนัทไม่ได้รับของมา แต่ตอนที่เอาไปวางไว้ที่เดิม ก็ไม่ได้มีคำพูดถอน หรือคำขอคืน ทางนั้นเขาก็คิดว่ารับของ จากเขาไป เขาชอบคุณนัท เขาอยากเอาไปอยู่เป็นลูกเป็นหลาน พอคุณแม่ของคุณนัท ได้ฟังมาถึงตรงนี้ ก็ทำเอาหน้าซีด แล้วถามพระว่า มีทางไหนจะแก้ไขเรื่องนี้บ้างคะ

พระท่านว่า ตอนนี้ผีตนนั้น เขารู้จักรูปร่าง หน้าตา ชื่อเสียงเรียงนามของคุณนัทแล้ว และเขาก็ชอบคุณนัทมาก ๆ ด้วย คงไม่ยอมง่าย ๆ แต่มีสิ่งที่พระท่านแนะนำ แม้แต่คุณแม่ก็ยังตะลึง ท่านกล่าวว่าให้ทำการ หลอกผี หลังจากนั้น ท่านก็ได้แนะนำวิธีการเตรียมตัวต่าง ๆ ให้

ในเย็นวันเสาร์ ก็เริ่มปฏิบัติการลับสุดยอด คุณพ่อได้พาคุณนัทไปหมอชิต พร้อมด้วยกระเป๋าเดินทาง แล้วแปะชื่อคุณนัท ใส่เสื้อผ้า ข้าวของเครื่องใช้ของคุณนัทไปด้วย เมื่อถึงเวลาที่รถใกล้ออก คุณพ่อก็ทำการจุดธูปขึ้นมาดอกหนึ่ง แล้วกล่าวว่า…

ไปที่หมอชิต พร้อมกระเป๋าเดินทาง

อยากได้ลูกข้านักใช่มั้ย ถ้าอยากได้ ก็จะให้…แต่ต้องตามไปเอาเองนะ !

ใช่แล้ว ! และนี่คือสิ่งที่พระท่านแนะนำ ให้คุณพ่อและคุณแม่ทำการหลอกผี ด้วยการหลอกผีไปให้ไกลมากที่สุด คุณพ่อของคุณนัทก็จัดตั๋วรถทัวร์ จากกรุงเทพ – เชียงใหม่ให้เลย พร้อมทั้งสัมภาระข้าวของ แล้วก็บอกคนขับ ให้จอดรถตรงหน้าทางออกหมอชิต จากนั้นก็พาคุณนัทลง โดยที่ทิ้งข้าวของไว้บนรถ ให้ผีมันตายใจ Go to Chiangmai กันไปเลยทีเดียว

หลังจากนั้น คุณนัทก็ไม่ได้ใช้ชื่อเดิมอีกต่อไป เขาได้เปลี่ยนทั้งชื่อจริง และชื่อเล่น นามสกุลก็ใช้นามสกุลแม่แทน และแน่นอนว่า นัท ก็ไม่ใช่ชื่อเล่นดั้งเดิมของเธออีกต่อไป

อย่างไรก็ตาม ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ เพราะอาการของคุณนัทนั้น ดีขึ้นเรื่อย ๆ ไม่รู้ว่าเป็นผลมาจากการรักษา หรือเป็นเพราะแผนจารกรรมปล้นลูกคืน จากผีอาม่าในครั้งนั้นกันแน่ จนถึงปัจจุบันทั้งคุณนัท และครอบครัว ก็ไม่แวะไปจังหวัดดังกล่าวอีกเลย กลัวว่าหากวันหนึ่ง บังเอิญไปเจอกับอาม่าอีก แล้วจะมองหน้ากันไม่ติด นี่คือเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นจริง หากท่านชื่นชอบ ฝากติดตามเรื่องลี้ลับสนุก ๆ ของเราไว้ด้วยนะคะ

ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก : “คนหลอกผี” ถูกผีตามติด…เลยหลอกมันขึ้นรถทัวร์ไปลงเชียงใหม่ – สยองสแควร์ (sayongsquare.com)